การจะทำศัลยกรรมอะไรแต่ละอย่างต้องศึกษาให้ดี เป็นคำพูดที่พูดเตือนกันอยู่เสมอ อย่างวันนี้ www.dodeden.com จะพาไปรู้จัก ศัลยกรรมเปลี่ยนชีวิต น้องโอม ที่เรียกได้ว่า เปลี่ยนเป็นคนละคนเลยก็ว่าได้ แต่ในมุมมองที่ต้องการนำเสนอในวันนี้ ไม่ใช่ศัลยกรรมแล้วหล่อเลย แต่จะนำคุณไปพบกับระหว่างทางของน้องโอมว่ากว่าจะมีทุกวันนี้ ไม่ใช่จะโรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างเดียว น้องโอมต้องการนำเสนอในเส้นทางเดินสายนี้ยังมีหนามกุหลาบแผงอยู่
น้องโอมเจ้าของเรื่องบอกว่า อยากนำประสบการณ์เกี่ยวกับทำศัลยกรรมมาแบ่งปัน อยากให้คนได้อ่าน และได้ข้อคิด ได้ความรู้จากตัวของเค้าเอง ที่น่าจะมีประโยชน์กับหลายๆคน ที่กำลังจะทำศัลยกรรม หรือคนที่ทำมาแล้ว แต่ยังอยากแก้จะได้แก้ให้ถูกและตรงจุด จะได้จบเสียที เพราะยังเห็นหลายๆคนที่ยังมีความเชื่อเกี่ยวกับการศัลยกรรมในแบบที่ผิดๆอยู่บ้าง โดยเผยรายละเอียดว่า
ก่อนจะทำจมูกครั้งแรกข้อนข้างมั่นใจว่าหาข้อมูลข้อนข้างแน่นเกี่ยวกับคุณหมอ หลายๆคนน่าจะเป็นเหมือนกันที่ชอบตั้งคำถามว่า ดาราคนนั้นทำจมูกหมอไหน คนนี้ทำจมูกหมอไหน ปัญญาที่กลุ้มใจและตัดสินใจทำจมูกคือ จมูกข้อนข้างใหญ่งุ้มด้วยทรงกระดูกและเนื้อเยอะ แต่เป็นคนจมูกโด่งอยู่แล้วตัวโอมเองก็ได้ทำการหาข้อมูลจนเจอคุณหมอท่านหนึ่งที่ขึ้นชื่อว่าแพง และแพงมาก หลายๆคนบอกทำให้กับดาราผู้หญิงหลายๆคน ตอนที่รู้ก็ตาลุกวาวรีบวิ่งไปปรึกษา
สรุปว่าคุณหมอตีราคาให้ เป็นเงิน 6 หลัก ไม่ได้ตกใจมากเพราะเราทราบมาบ้างว่าคุณหมอท่านนี้ 6 หลักทุกคน และที่สำคัญ ไม่สามารถยื่นแบบจมูกได้เลยคุณหมอจะเป็นคนออกแบบให้เอง ตอนนั้นตัดสินใจทำ โดยมีความคิดว่า ถ้ามันแพงและทำให้ดาราหลายๆคน น่าจะออกมาดี เลยยอมเสียเงินจำนวนมาก
แต่สุดท้ายแล้วนั่นคือความคิดที่ผิดนะครับ จมูกที่ทำเสร็จออกมายอมรับว่าโด่งมากๆ โด่งจนดูหลอกตา ไม่ว่าไปที่ไหนคนมักจะทักว่าทำจมูกมาโด่งเกินไปรึเปล่า โดยที่ก่อนทำเราไม่ได้รีเควสเรื่องความโด่งเลย จนเวลาผ่านไป 1 ปี สิ่งที่ตามมาคือสันจมูกแดง และแดงขึ้นชัดเจน ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ไหวแล้วเราเครียดกับจมูกในทุกๆวันมันจะเสียสุขภาพจิต และไม่เป็นอันทำอะไร ไม่นานก็ได้ไปแก้กับคุณหมออีกท่านที่เปิดคลีนิคมานานและมีประสบการณ์เกินสิบปี เราเลยไว้ใจไปทำ แต่แล้วไม่ได้ดีขึ้นเลยครับ หลังทำมาได้ 3 เดือนจมูกใหญ่และเอียง จิตตกยิ่งกว่าเดิม หลังจากครั้งนั้นก็ยังมีการแก้จมูกอีก 3 รอบ จนกว่าจะจบ รวมแล้ว 5 รอบจนเป็นจมูกปัจจุบันที่เห็นตามภาพนะครับ
จมูกครั้งล่าสุดเป็นการผ่าตัดแบบโอเพ่น คือการเปิดแผลด้านนอก คุณหมอจะเข้าไปจัดการผ่าตัดด้านได้สะดวกและง่ายขึ้น เหมาะกับคนที่มีเนื้อจมูกเยอะ จมูกใหญ่ เป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุด นอกจากนี้ยังเอากระดูกอ่อนหลังหูมาต่อปลายจมูก ผลออกมาก็พอใจมาก ค่าเสียหายยังเป็นหลักหมื่น ไม่แพงเท่าครั้งแรก แต่โดยรวมแล้วก็เสียเงินไปเยอะกับการทำจมูก แต่ลองมาคิดว่าถ้าตอนนั้นเราใจเย็นกว่านี้ ศึกษาข้อมูลให้ดี รอบคอบ อาจจะไม่ต้องพลาดหลายๆรอบ อันนี้เป็นข้อคิดให้คนที่ใจร้อนแล้วก็ไม่รอบคอบนะครับ เพราะหนึ่ง เราศึกษาข้อมูลควรศึกษาหลายๆด้าน ไม่ใช่เพียงดูรีวิว หรือดูราคาว่าแพงแล้วน่าจะทำดี ไม่จริงเสมอไป สองคือเราต้องรู้ว่าปัญหาของเราคืออะไร ส่วนไหนบกพร่องต้องแก้ให้ตรงจุด คุณหมอแต่ละท่านมีเทคนิคที่แตกต่างกัน บางคนทำแบบนี้ได้ อีกคนทำไม่ได้ อยากให้ลองศึกษากันนานๆและใจเย็นๆนะครับ
เรื่องการผ่าตัดเสริมจมูกเป็นเรื่องที่ยากที่สุดแล้วโดยส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีการผ่าตัดริมฝีปากทำปากบางลง ทำครั้งเดียวแล้วก็พอใจไม่ได้มีปัญหาอะไร ถือว่าผาข้อมูลมาข้อนข้างดี แต่อาจมีการรอคิวที่ยาวนาน อันนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่อยากฝากไว้นะครับ ถ้าอยากทำศัลยกรรมกับคุณหมอท่านไหนแล้วคิวยาว อาจจะรอนาน อยากให้รอนะครับ ใจเย็นๆดีกว่าเพื่อตัวของเราเอง
และหลายๆคนเห็นภาพแล้วอาจจะสงสัยเรื่องรูปหน้าที่เปลี่ยนไปเยอะ ใบหน้าไม่ได้ผ่านการเหลากรามนะครับ เป็นการโบท็อกซ์และเติมฟิลเลอร์ที่คาง ก็ช่วยได้มากสำหรับคนที่หน้ากลมหน้าสั้น
เรื่องของผิวพรรณเปลี่ยนไปมากจนทุกคนฟันธงว่าฉีดแน่ๆ ก็ยอมรับว่าเคยฉีดนะครับ เคยลองแต่รู้สึกว่าไม่เห็นผลและเสี่ยงต่ออันตราย เลยหันมาเน้นทานวิตามินและทาครีมกันไปบำรุงเองได้ที่บ้าน เน้นความสม่ำเสมอ มีวินัยและใช้ของที่ดีที่ถูกกับเรา
สุดท้ายที่อยากฝากไว้นะครับ ทั้งหมดที่เล่ามาอยากให้เกิดประโยชน์กับหลายๆคนไม่มากก็น้อย อาจะเป็นแนวทางให้ได้บ้าง ที่สำคัญอยากให้มีสติและใจเย็นๆก็ก่อนจะทำอะไร การทำศัลยกรรมทุกครั้งเราเสียทั้งเงินแล้วก็ เวลาในการพักฟื้น และยังเจ็บตัวอีกด้วย และศัลยกรรมไม่ได้เปลี่ยนชีวิตใครได้ง่ายๆนะครับ ถ้าคิดว่าทำแล้วชีวิตจะเปลี่ยนเลยก็คงไม่ใช่ เพราะตัวเองผ่านมาแล้วรู้ว่า หน้าเราเปลี่ยนจริง คนอาจมองว่าหน้าตาดีเราดีขึ้น แต่ที่สำคัญจริงๆมันก็อยู่ที่ตัวเรา เพราะที่จริงทำมาจนเราคิดว่าดีแล้ว ก็ยังมีหลายๆคนที่ยังตำหนิ ติโนนี่อยู่ ว่าทำเยอะจนหน้าไม่เป็นธรรมชาติบ้าง ดูปลอมบ้าง อันนี้ก็รับฟังแต่ไม่ได้เอามาใส่ใจมากนักเพราะเราพอใจในแบบของเราตอนนี้ แต่ถ้าการทำแล้วทำให้เรามั่นใจขึ้นแล้วมีความสุขขึ้น มีกำลังใจจะไปทำอะไรอีกหลายๆอย่างมันก็คุ้มค่าครับ
ใครอยากติดตามน้องโอมอย่างใกล้ชิดก็สามารถไป Follow กันได้ที่ www.facebook.com/pang666
