“จรัมพร” เล็งขายทิ้ง “บ้าน-ออฟฟิศ-สนง.” 30 แห่ง ในไทยและทั่วโลก ชงเข้าบอร์ดไฟเขียว ก.ย. หลังแผนลดค่าใช้จ่าย 6 เดือนพลาดเป้า เร่งยกเครื่องนำระบบบริหารจัดการราคาตั๋วและตารางบินใหม่มาใช้ ต.ค.นี้
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการ ใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานตามแผนฟื้นฟูระยะเร่งด่วน 18 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 ม.ค. 2558 เพื่อแก้ไขปัญหาขาดทุนของบริษัทว่า การบินไทยกำหนดเป้าหมายจะต้องลดค่าใช้จ่ายให้ได้ 20% ภายใน 18 เดือน แต่ดำเนินมาแล้ว 6 เดือน ลดค่าใช้จ่ายได้เพียง 6% ถือว่าต่ำกว่าเป้าที่ตั้งไว้
ส่วนการหารายได้เพิ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบรายได้ช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 มีรายได้ 49,981 ล้านบาท แต่ปีนี้มีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 51,649 ล้านบาท ถือว่ารายได้เพิ่มขึ้น 1,668 ล้านบาท ดังนั้น มั่นใจว่าภายใน 18 เดือน แผนการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้จะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน มั่นใจว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2559 การบินไทยจะต้องเริ่มต้นมีกำไรอย่างต่อเนื่องทุกๆ เดือน
“ผ่านมา 6 เดือน ลดค่าใช้จ่ายได้แค่ 6%เท่านั้น ผมยังไม่พอใจ อยากให้ลงได้เร็วกว่านี้ ส่วนแผนเพิ่มรายได้ก็พอใจเพียง 50% เท่านั้น เรายังต้องทำงานให้เข้มข้นมากขึ้น แม้ว่ารายได้ไตรมาสแรกของปีนี้จะดีกว่าปีที่แล้ว ส่วนรายได้ในช่วง 6 เดือนนั้นยังเปิดเผยไม่ได้ แต่อัตราการบรรทุกผู้โดยสารเดือน ก.ค.ที่ผ่านมาเพิ่มสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนมากถึง 8% เพราะจำนวนนักท่องเที่ยวจากเอเชียเพิ่มขึ้นมาก”
นอกจากนี้ นายจรัมพร กล่าวถึงแผนการลดค่าใช้จ่ายว่า การบินไทยมีเส้นทางบินที่ประสบภาวะการขาดทุนตลอดเวลา 5-10 ปี รวมทั้งสิ้น 50 เส้นทาง โดยจะทยอยปิดและปรับลด 10 เส้นทาง ส่วนอีก 10 เส้นทางอยู่ระหว่างการพิจารณาอาจเป็นแผนในปีถัดไป
ส่วนที่ปิดไปแล้วได้แก่ กรุงเทพฯ-โจฮัน-เนสเบิร์ก, กรุงเทพฯ-มอสโก และเตรียมจะปิดกรุงเทพฯ-โรมและกรุงเทพฯ-โซล-ลอสแอนเจลิส ในเดือน ต.ค. นี้ ในขณะเดียวกันได้เร่งพิจารณาการปรับเปลี่ยนขนาดของเครื่องบินให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และปลดระวางเครื่องบิน
ส่วนเรื่องการปรับโครงสร้างการบริหารงานนั้น นายจรัมพร กล่าวว่า จะมีการยุบรวมฝ่ายบริหารระดับสูงที่ไม่จำเป็น เพื่อให้โครงสร้างองค์กรได้ตามมาตรฐานสากลและจะพิจารณาเทียบเคียงกับสายการบินคู่แข่งด้วย เชื่อว่าจะไม่ถูกต่อต้านจากพนักงาน เนื่องจากปัจจุบันหลายหน่วยงานมีตำแหน่งลอยๆ แต่ไม่มีคนทำงานจริง คาดว่าตั้งแต่เดือน ส.ค.จะเริ่มปรับโครงสร้าง 3-4 หน่วยงาน จะเริ่มจากฝ่ายการเงิน ฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล และฝ่ายธุรการ
นายจรัมพร กล่าวว่า ในส่วนของแผนการเพิ่มรายได้นั้น ช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ การบินไทยจะนำระบบการบริหารจัดการกำหนดราคาตั๋วโดยสารและระบบบริหารจัดการตารางบินแบบใหม่มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน ซึ่งจะทำให้การกำหนดราคาตั๋วโดยสารจะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
“ขณะนี้บริษัททำแผนบริหารจัดการสินทรัพย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นอาจจำเป็นต้องขายทิ้ง สำนักงาน บ้านพักพนักงาน และสำนักงานขายที่ไม่ได้ใช้งานประมาณ 30 แห่ง แบ่งเป็นในต่างประเทศ 19 แห่ง และในไทยอีก 11แห่ง ผมยืนยันว่าเราไม่ได้ขายทรัพย์สินเพื่อให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ต้องการลดต้นทุนค่าบริหารจัดการทรัพย์สินมากกว่า
เบื้องต้นจะขายก่อน 3-4 แห่ง เช่น สำนักงานที่ซิดนีย์ ออสเตรเลีย และบ้านพนักงานในกรุงลอนดอน แต่จะขายหรือไม่ รอผลการพิจารณาของบอร์ดในเดือน ก.ย.ว่าจะเห็นเป็นอย่างไร เพราะการขายทรัพย์สินถือเป็นเรื่องที่อ่อนไหว และอาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ขององค์กรได้”