เนื้อหาโดย Dodeden.com
เพราะรสชาติที่จัดจ้านและเผ็ดแซ่บในเมนูอาหาร นอกจากจะช่วยแก้เลี่ยนหายง่วงได้ดีเเล้ว ความเผ็ดร้อนจากสารแคปไซซินในพริก ยังทำให้ไม่อ้วนอีกด้วย และนี่ก็คือข้อดีจากพริกที่หลายๆ คนอาจจะยังไม่เคยรู้!
ช่วยให้อายุยืนยาว
ชาวจีนซึ่งขึ้นชือว่าเป็นหนึ่งในชนชาติที่มีอายุยืนยาวนั้น นิยมบริโภคอาหารรสเผ็ดมากกว่าครึ่งล้านคน การกินอาหารรสจัดประมาณ 6 ครั้งต่อสัปดาห์ จะช่วยลดความเสี่ยงของการตายจากโรคต่างๆ ได้ประมาณ 14% และหากกินอาหารรสจัดจ้านเพียงแค่ 2 วันต่อสัปดาห์ ก็จะลดความเสี่ยงได้ราว 10% เมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่กินอาหารรสชาติกลางๆ
น้ำหนักลดลง
เพราะความเผ็ดร้อนของพริก จะช่วยควบคุมความอยากอาหารและช่วยให้ระบบเผาผลาญทํางานได้เร็วขึ้น คุณจะรู้สึกพอใจและมีความสุขมากขึ้นเมื่อได้กินอาหารรสเผ็ดแซ่บ และคุณจะบริโภคอาหารที่มีไขมันน้อยลงหลังจากที่กินอาหารรสจัดในปริมาณสูง ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าเป็นผลที่เกิดจากปฏิกิริยาของกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย นักวิชาการยังยืนยันว่าความเผ็ดร้อนในปาก ว่าช่วยให้เรากินอาหารได้ช้าลง และทําให้เราอิ่มเร็วตามลําดับ
บรรเทาความเจ็บปวด
รู้มั้ยว่าสารแคปไซซิน สามารถนํามาใช้เป็นยาทาภายนอกเพื่อบรรเทาอาการปวดของกล้ามเนื้อ ปวดข้อ และปวดหลังได้ ยาทาแก้ปวดเมื่อยหลายชนิดมักให้ความรู้สึกร้อนขึ้นหลังจากทาแล้ว นั่นก็เป็นเพราะสารแคปไซซินมีคุณสมบัติช่วยปล่อยสารโอปิออยด์ (Opioid) ซึ่งเป็นสารที่สร้างขึ้นได้เองในร่างกาย ถือเป็นกลุ่มสารเคมีที่มีโครงสร้างและคุณสมบัติคล้ายคลึงกับมอร์ฟีน จึงมีฤทธิ์ช่วยระงับอาการปวดได้ดี
นอกจากนี้ สารแคปไซซินมีส่วนช่วยให้ผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นในโรคที่เกี่ยวกับสภาวะภูมิคุ้มกันร่างกายบกพร่อง เช่น โรคปวดข้อรูมาตอยด์ ซึ่งโรคเหล่านี้จะพบได้น้อยมากในประเทศที่นิยมบริโภคอาหารรสจัด นอกจากนี้นักวิจัยยังพบว่าแคปไซซินสามารถยับยั้งการหดตัวของหลอดเลือด ช่วยให้มีการขยายตัวของหลอดเลือด ตลอดจนมีผลต่อการละลายลิ่มเลือดได้อีกด้วย