ขาดวิตามินดีจากแสงแดด… เสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุนจริงหรอ??
แม้จะเป็นที่ทราบกันดีสำหรับคุณประโยชน์หลากหลายด้านของแสงแดด โดยเฉพาะ วิตามินดี ที่มีส่วนช่วยสร้างเสริมสุขภาพความแข็งแกร่งของกระดูก ห่างไกลจากภาวะกระดูกพรุนได้ในระยะยาว
แต่กระนั้น แสงแดดก็ยังเป็นที่หวาดหวั่นของสาว ๆ ที่กลัวจะมาทำร้ายผิวสวยให้หมองคล้ำหลายคนจึงมักหลบเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดด อีกทั้งความเร่งรีบในการดำเนินชีวิตของผู้คนในเมืองก็มีส่วนส่งผลต่อการได้รับประโยชน์จากแสงแดดน้อยลง!
ศ.นพ.บุญส่ง องค์พิพัฒนกุล หน่วยโรคต่อมไร้ท่อและเมตะบอลิซึม ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ความรู้กล่าวถึงภาวะขาดวิตามินดีว่า ร่างกายคนเรานั้นต้องการวิตามินหลายชนิด วิตามินดีมีส่วนสำคัญต่อการดูดซึมแคล เซียมในร่างกายซึ่งแคลเซียม เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อกระดูกและการเจริญเติบโต ดังนั้นหากร่างกายได้รับแคลเซียมพอ แต่วิตามินดีไม่พอก็จะดูดซึมแคลเซียมได้น้อยลงเมื่อทานแคลเซียมเข้าไปก็จะได้ประโยชน์ไม่เต็มที่
’วิตามินดีมีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่งคือร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้หลังจากที่ถูกแสง แดดและด้วยความที่ประเทศ ไทยอยู่ในเส้นศูนย์สูตรจึงได้รับแสงแดดค่อนข้างมาก ในอดีตมีความเข้าใจกันว่าคนไทยไม่น่าจะเป็นภาวะขาดวิตามินดีซึ่งต่างจากประเทศตะวันตกที่ค่อนข้างพบปัญหาขาดวิตามินดีซึ่งหากขาดวิตามินดีมากก็จะเกิดโรคกระดูกน่วม แต่หากขาดไม่มากอาจเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้ง่ายขึ้น”
อีกทั้งในระยะหลังยังพบว่าหากร่างกายขาดวิตามินดีก็อาจจะส่งผลต่อโรคเรื้อรังบางอย่าง อาทิ โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ฯลฯ แต่อย่างไรก็ตาม การขาดวิตามินดีจะเป็นบ่อเกิดของโรคอื่น ๆ ได้หรือไม่นั้น สิ่งนี้คงต้องศึกษาเพิ่มเติม และจากเดิมเชื่อกันว่าคนไทยไม่ขาดวิตามินดีเนื่อง จากบ้านเรามีแดดมาก แต่อย่างไรแล้วเมื่อมีการศึกษาวิจัยพบการขาดวิตามินพอควร โดยคนที่อยู่ในเขตเมืองวิตามินดีจะต่ำกว่าคนที่อยู่นอกเขตเมืองและยังพบว่า คนที่อยู่ในเมืองที่มีความเป็นเมืองมากขึ้นจะขาดวิตามินดีเพิ่มขึ้น
หากเปรียบเทียบกับโรคเบาหวานซึ่งมีผู้ป่วยอยู่มากประ มาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ผู้ที่ขาดวิตามินดีในเขตเมืองในกรุงเทพฯพบประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ จากตัวเลขเหล่านี้พบว่าค่อนข้างเป็นปัญหาซึ่งควรต้องเร่งส่งเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ!!
สาเหตุที่ ขาดวิตามินเพราะไม่ถูกแสงแดด ถือเป็นส่วนหนึ่งแต่อีกส่วนหนึ่งคือ การถูกแสงแดดโดยไม่ถูกเวลาซึ่งความสามารถของผิวหนังในการสร้างวิตามินนั้นมีมาก การถูกแดดเพียงแค่ช่วงหนึ่งไม่นานนักก็จะได้รับวิตามินดี อย่างในต่างประเทศมีการศึกษาซึ่งข้อแนะนำของเขาให้ถูกแดดช่วง 10 โมงเช้าถึง 14.00 น. สัปดาห์ละ 10-15 นาที 2-3 ครั้งก็น่าจะพอ
แต่ในบ้านเราช่วงเวลานี้อาจไม่มีใครอยากถูกแดด ด้วยแดดบ้านเราแรงก็พยายามที่จะเลี่ยง ดังนั้นเมื่อแดดบ้านเราแรงกว่าต่างประเทศปัจจุบันจึงกำลังศึกษาวิจัยว่ามีความเหมาะสมในช่วงเวลาใด แต่อย่างไรก็ตามมีข้อมูลจากประเทศอินโดนีเซียซึ่งน่าจะมีความคล้ายคลึงกันโดยการศึกษาวิจัยผู้สูงอายุซึ่งการได้รับแดด ในช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. สัปดาห์ละ 3 ครั้งครั้งละประมาณ 20 นาที ถือเป็นสิ่งที่ดี
นอกจากนี้ภาวะขาดวิตามินดียังพบในกลุ่มอายุน้อยมากกว่าผู้สูงอายุ ที่เป็นเช่นนี้อาจสันนิษฐานได้จากการใช้ชีวิต ของหนุ่มสาววัยทำงาน ซึ่งเมื่ออยู่ในที่ทำงานก็จะทำงานอยู่ในตึกไม่ค่อยได้รับแสงแดด
ด้วยความจำเป็นของการดำเนินชีวิตประจำ วัน สภาพสังคมที่เป็นเมืองมากขึ้นก็ทำให้สิ่งนี้เป็นปัญหามากขึ้นและก็เป็นแบบเดียวกันนี้แทบทุกประเทศซึ่งพบปัญหาการขาดวิตามินดี หากมีความเข้าใจก็จะทำให้ไม่เสี่ยงต่อการขาดวิตามินดีซึ่งมีผลเสียต่อกระดูกรวมทั้งโรคเรื้อรังบางอย่าง
ดังนั้นถ้าจะให้ดีจึงไม่ควรปล่อยให้ร่างกายขาดวิตามินดีซึ่งในการที่ป้องกันไม่ให้ขาดไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแต่ต้องถูกแดดในเวลาที่เหมาะสม ถ้าแดดจัดเกินไปก็ควรหลีกเลี่ยง
ส่วนบางคนอาจมีความเป็นห่วงว่าถ้าถูกแดดมากจะเป็นมะเร็งผิวหนัง ศ.นพ.บุญส่งให้ความรู้เพิ่มเติมอีกว่า การที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังนั้นจะต้องถูกแดดจัดมาก ๆ เป็นเวลานาน และผิวหนังมีเม็ดสีน้อย ส่วนการได้รับวิตามินดี นอกเหนือจากแสงแดดแล้วร่างกายสามารถได้รับจากอาหารได้บ้างและที่พูดถึงกันบ่อย ๆ ได้แก่ ปลาแซลมอน ซึ่งหากเป็นแซลมอนในธรรมชาติจะมีวิตามินดีอยู่มาก ในทางปฏิบัติอาจหาปลาเหล่านี้รับประทานได้ยาก ปลาทู ปลาพื้นบ้าน ในบ้านเรายังต้องการการศึกษาว่ามีวิตามินดีมากน้อยเพียงใด ส่วน พืชในกลุ่มเห็ด จะมีสารตั้งต้นของวิตามินดีซึ่งเปลี่ยนไปเป็นวิตามินดีได้ถ้าถูกแดดและบางคนอาจจำเป็นต้องใช้วิตามินดีเม็ด
การดูแลสุขภาพสิ่งนี้มีความสำคัญซึ่งหากละเลยไม่ดูแลตนเองในระยะยาวก็จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกพรุนซึ่งการถูกแดดที่จะได้ประโยชน์ควรต้องเป็นกลางแจ้ง แต่ก่อนจะก้าวสู่ภาวะขาดวิตามินดีและนำไปสู่โรคกระดูกพรุนนั้นสิ่งสำคัญควรตั้งต้นด้วยความไม่ประมาทไม่คิดว่าอยู่ในประเทศที่มีแดดมากแล้วจะไม่ขาดวิตามินดี คงต้องเตือนตนเองว่าชีวิตสังคมเมืองมีโอกาสที่จะเสี่ยงต่อการขาดวิตามินดีได้ซึ่งคงต้องหาวิธีที่จะได้รับวิตามินดีให้เพียงพอซึ่งวิธีการง่าย ๆ แพทย์ท่านเดิมฝากทิ้งท้ายอีกว่า คงจะต้องให้ร่างกายถูกแดดบ้างในเวลาที่เหมาะสม รวมทั้งไม่ละเลยการออกกำลังกายกลางแจ้ง การทานอาหารที่มีประโยชน์
อีกทั้งไม่ควรตื่นตระหนกแต่ควรตระหนักในการดูแลรักษาสุขภาพเตรียมความพร้อมไว้ซึ่งไม่เพียงช่วยให้หลีกไกลจากโรคกระ ดูกพรุน แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย.
ขอบคุณที่มา www.dailynews.co.th