ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอมรายงานว่า จากกรณี ที่มีการแชร์ข้อมูลผ่านสื่อโซเชียลชักชวนให้ ขายอสุจิ เพื่อนำไปใช้ทำเครื่องสำอาง และหากเป็นเชื้อที่มีคุณภาพดีจะนำเข้าธนาคารอสุจิ โดยอ้างว่าเป็นธนาคารอสุจิรายแรกของประเทศไทย นั้น
ล่าสุด นายแพทย์ธงชัย กีรติหัตถยากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (กรม สบส.) กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลเก่าที่มีการแชร์ผ่านสื่อโซเชียลครั้งแรกในปี พ.ศ.2557
ซึ่งในขณะนั้นประเทศไทยยังไม่มีการบังคับใช้กฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ แต่ ณ ปัจจุบัน ประเทศไทยได้มีการบังคับใช้กฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ.2558
เพื่อช่วยให้คู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีบุตรยากได้มีบุตรตามต้องการโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ฯ และควบคุมการศึกษาวิจัย มิให้มีการนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2558 ส่งผลให้การโพสต์ หรือแชร์ข้อความเชิญชวนให้มีการซื้อ ขาย อสุจิ ไข่ หรือตัวอ่อน ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ประเทศไทยยังไม่มีการก่อตั้งธนาคารอสุจิ รวมทั้งอสุจิ ไข่ ที่นำมาดำเนินการในเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์จะมาจากการบริจาค ไม่มีการรับซื้อแต่อย่างใด
ดังนั้น หากพบเห็นการโฆษณารับซื้อเชื้ออสุจิในลักษณะดังกล่าว อย่าได้หลงเชื่อ และขอความร่วมมือให้แจ้งเบาะแสมาที่กลุ่มคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18419, เฟซบุ๊คสารวัตรสถานพยาบาลออนไลน์ และกองกฎหมาย หมายเลขโทรศัพท์ 02 193 7000 ต่อ 18830, เฟซบุ๊คมือปราบสถานพยาบาลเถื่อน ในวันและเวลาราชการ เพื่อดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดต่อไป
ด้าน ทันตแพทย์อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า สำหรับ คู่สมรสที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ต้องการจะมีบุตรโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ สามารถขอคำปรึกษาจากสถานพยาบาลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ จากกรม สบส.
ซึ่งขณะนี้มีทั้งสิ้น จำนวน 74 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ใน 14 จังหวัด ได้แก่ 1.กรุงเทพฯ 2.ปทุมธานี 3.สมุทรสาคร 4.เชียงใหม่ 5.เชียงราย 6.พิษณุโลก 7.นครนายก 8.ชลบุรี 9.ขอนแก่น 10.นครราชสีมา 11.อุดรธานี 12.นครศรีธรรมราช 13.ภูเก็ต 14.สงขลา
โดยก่อนรับบริการ ให้ตรวจสอบรายชื่อสถานพยาบาลที่เว็บไซต์สำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ (http://mrd-hss.moph.go.th) เพื่อความมั่นใจว่าจะได้รับบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด