ในปัจจุบัน การผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งได้รับความนิยมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดโดยการฉีดยาชา เช่น การเสริมจมูก ทำตา 2 ชั้น เป็นต้น หรือจะเป็นการผ่าตัดที่ต้องดมยาสลบ เช่น การเสริมหน้าอก การผ่าตัดดึงหน้า เป็นต้น แต่มีการผ่าตัดที่มีสถิติสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่เฉพาะในกลุ่มคนไทย แต่รวมถึงชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาผ่าตัดในประเทศไทยด้วยนั้น คือ “การผ่าตัดเสริมเต้านม”

การผ่าตัดเสริมเต้านมถือเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ เพราะเต้านมในแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นในการผ่าตัด ศัลยแพทย์ตกแต่งจึงต้องมีการตรวจตั้งแต่รูปร่าง และขนาดของกระดูกหน้าอก ระดับและขนาดของหัวนม ปานนม ความหย่อนคล้อยของเต้านม เป็นอย่างไร โดยทุกสิ่งนี้เหล่านี้ล้วนแต่มีผลต่อการเลือกใช้ชนิดและขนาดของวัสดุเสริมเต้านมทั้งสิ้น

การจะเดินเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อเสริมเต้านมนั้น ยังมีสิ่งที่ควรทราบเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจร่วมกับแพทย์ ในการผ่าตัดเสริมเต้านม โดยมี 3 ปัจจัย ได้แก่

1. แผลผ่าตัด โดยทั่วไปจะสามารถเลือกแผลผ่าตัดตามตำแหน่ง โดยเลือกบริเวณที่ซ่อนแผลได้ดีที่สุด คือ บริเวณรักแร้ ปานนม และใต้ฐานนม
2. ชนิดของวัสดุเสริมเต้านม มีทั้งเป็นถุงซิลิโคน และถุงน้ำเกลือ ในส่วนของผิวมีทั้ง ผิวเรียบ ผิวหยาบ และผิวทราย รูปทรงกลมหรือหยดน้ำ 
3. ตำแหน่งของถุงเต้านม อาจวางได้ทั้งเหนือกล้ามเนื้อและใต้กล้ามเนื้อ หรือวางบางส่วนเหนือกล้ามเนื้อและอีกส่วนใต้กล้ามเนื้อ ซึ่งสิ่งที่ต้องตัดสินใจนี้ ถือเป็นการตัดสินใจร่วมกันของศัลยแพทย์และผู้เข้ารับการผ่าตัด เนื่องจากแต่ละอย่างมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ถ้าผู้ป่วยมีความรู้ในเบื้องต้นจะทำให้คุยกับแพทย์และตัดสินใจเลือกวิธีการผ่าตัดได้ตรงกับความต้องการของตนเองมากที่สุด

การผ่าตัดเต้านมไม่ได้มีแต่ข้อดีที่ทำให้เต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้น รูปร่างสวยขึ้น แต่งตัวแล้วมีความมั่นใจมากขึ้น แต่ยังอาจมีข้อเสีย ในส่วนของภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงควรคำนึงถึงด้วยเช่นกัน เนื่องจากทุกการผ่าตัดมีโอกาสเกิดปัญหาแทรกซ้อนตามมาได้ ดังนั้นก่อนการผ่าตัด ควรได้มีการศึกษาข้อดีข้อเสีย รวมถึงภาวะแทรกซ้อนของการผ่าตัดเสริมเต้านมด้วย และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ควรเลือกแพทย์และโรงพยาบาลผ่าตัดที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดี และผู้เข้ารับการผ่าตัดได้รับความพึงพอใจ