วันนี้ (2 ม.ค. 59) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุมือปืนรายหนึ่ง บุกเข้าไปก่อเหตุกราดยิงภายในผับและคาเฟ่ยอดนิยมแห่งหนึ่ง บนถนนที่มีผู้คนพลุกพล่านในกรุงเทลอาวีฟของอิสราเอลเมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 7 คน ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีไปได้ ตำรวจกำลังติดตามล่าตัวอยู่ และยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจของการก่อเหตุร้ายในครั้งนี้ โดยไม่แน่ใจว่าคนร้ายเป็นชาวปาเลสไตน์หรือไม่ หรือเป็นเหตุยิงกันของแก๊งอาชญากรรม
ทั้งนี้ ในช่วงกว่า 3 เดือนที่ผ่านมา มีเหตุโจมตีเกิดขึ้นแทบรายวัน จากฝีมือของชาวปาเลสไตน์ ซึ่งโจมตีเป้าหมายพลเรือนและเจ้าหน้าที่ทหารของอิสราเอล ซึ่งในฝั่งของชาวอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 21 ราย ส่วนใหญ่จากการใช้อาวุธมีดแทง, ยิงด้วยอาวุธปืน และขับรถพุ่งชน ส่วนของชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไป 132 รายส่วนใหญ่ถูกเจ้าหน้าที่ของอิสราเอลยิงเสียชีวิต ซึ่งในจำนวนนี้ 90 ราย ทางอิสราเอลระบุว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุโจมตี ส่วนที่เหลือเสียชีวิตเพราะผลจากการปะทะกับเจ้าหน้าที่อิสราเอล
นายรอนฮุลได นายกเทศมนตรีเมืองเทลอาวีฟ กล่าวว่า ได้ไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาล และยังได้พูดคุยกับผู้บาดเจ็บที่ยังสามารถสื่อสารตอบโต้ได้ ซึ่งบอกว่า ภายในบาร์กำลังมีงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดให้กับเพื่อนคนหนึ่ง แล้วก็มีคนร้ายบุกเข้ามาก่อเหตุยิงกราดเข้าใส่ผู้คนด้านนอก ซึ่งจะเป็นบทเรียนให้เจ้าหน้าที่ปรับปรุงด้านการรักษาความปลอดภัยให้ดีขึ้นกว่านี้
ส่วนสถานีโทรทัศน์แชนเนล 10 รายงานว่า คนร้ายใช้ปืนไรเฟิลและยิงไปกว่า 30 นัด เจ้าหน้าที่กำลังตามล่าตัวคนร้าย ซึ่งผู้เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า เป็นชายที่นั่งรออยู่เก้าอี้ยาวนอกร้านคาเฟ่ ก่อนใช้อาวุธปืนอัตโนมัติกราดยิง