คณะรัฐมนตรีอนุมัติผลการเจรจาต่อรอง เรื่องการเดินรถสายสีน้ำเงิน ช่วงเตาปูน – บางซื่อ พร้อมเห็นชอบการใช้พื้นที่ร่วมกันไทย – ลาว ตามกรอบความร่วมมือข้ามพรมแดนลุ่มแม่น้ำโขง
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุม ครม.ได้อนุมัติผลการเจราจรต่อการเดินรถกับบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพิ่มอีก 1 สถานี 1 กม. ช่วงเตาปูน – บางซื่อในงานสัญญาที่ 5 ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง – บางแค และ บางซื่อ – ท่าพระ หลังจากที่คณะกรรมการมาตรา 13 ได้เสนอให้บริษัท การรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด ทำการติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณ 15 เดือน และขอเดินรถระยะเวลา 1 ปีเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2557 ผ่านมา ซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติมอบให้กระทรวงคมนาคม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการมาตรา 13 พิจารณาในเรื่องข้อเสนอเพื่อให้สิ้นสุดลงในปี พ.ศ.2572 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการสิ้นสุดสัญญาการเดินรถไฟฟ้าสายเฉลิมรัชมงคลของบริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด
นอกจากนี้ สำหรับประเด็นการพบชิ้นส่วนซากเครื่องบินอากาศยานเมื่อวันเสาร์ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และมีความสงสัยว่าจะเป็นชิ้นส่วนของเที่ยวบิน MH-370 ที่หายสาบสูญไปกว่า 1 ปี ทางกรมการบินพลเรือนของมาเลเซีย กลุ่มงานนิรภัยกระทรวงคมนาคม และกองทัพอากาศ ได้มีการลงพื้นที่ตรวจสอบร่วมกันโดยกรมการบินพลเรือนมาเลเซีย ได้ออกแถลงการณ์ว่า ชิ้นส่วนดังกล่าวไม่ได้อยู่ในรายการ รายชื่อชิ้นส่วนของเที่ยวบิน MH-370 และแสดงความขอบคุณประเทศไทยในการดำเนินการติดตามเที่ยวบินลำดังกล่าว
นายอาคม ยังเปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบการใช้พื้นที่ร่วมกันตรงจุดผ่านแดน จังหวัดมุกดาหาร ตามข้อตกลงของกรอบความร่วมมือข้ามพรมแดนลุ่มแม่น้ำโขง บริเวณด่านมุกดาหาร – สะหวันนะเขต ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยลดเวลาการผ่านด่านทั้ง 2 ประเทศในการขนสินค้าและคนผ่านแดน เพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น โดยหากประชาขนคนไทยและสินค้าของประเทศไทยจะขนส่งผ่านไปยังลาว ก็สามารถให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรด่านตรวจคนเข้าเมืองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย และลาว ไปประจำจุดตรวจที่ประเทศลาวจุดเดียวได้เลย ไม่จำเป็นต้องตรวจ 2 จุดเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นการอำนวยความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม หากประชาชนลาว ต้องการที่จะเดินเข้ามายังประเทศไทยก็สามารถให้มีเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 ประเทศ มาตั้งจุดตรวจฝั่งไทยได้เลย เพื่อลดเวลาการทำเอกสารการผ่านแดน ซึ่งทาง ครม. ได้มอบหมายให้ กรมทางหลวง เป็นผู้รับผิดชอบการสร้างด่านบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำโขง นอกจากนี้ ในระยะแรกได้เตรียมพื้นที่กว่า 15 ไร่ ในการสร้างด่านตรวจ และระยะต่อไป จะดำเนินการให้เป็นพื้นที่ตรวจคน และรถส่วนบุคคล รถโดยสาร ที่จะเดินทางข้ามแดนด้วย