คลินิกความงามแห่แตกเซ็กเมนต์ ขยายฐานลูกค้า-วุฒิศักด์ชนยันฮี
คลินิกความงามแข่งเดือด วุฒิ-ศักดิ์แตก เซ็กเมนต์ เดินหน้าคลินิกศัลยกรรม 10 สาขาปีหน้า เล็งอีก 3 ปีเปิด ร.พ.ศัลยกรรมชนยันฮี ด้านรมย์รวินท์ผุดเคาน์เตอร์แบรนด์เจาะตลาดบน ส่วนยันฮีเจาะตลาดแมส เพิ่มช่องทางขายค้าปลีก ขยายฐานลูกค้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้คลินิกความงามค่ายหลัก ๆ มีความเคลื่อนไหวอย่างคึกคัก และไม่ได้หยุดนิ่งแค่การเปิดสาขาเท่านั้น แต่เริ่มเห็นภาพการแตกเซ็กเมนต์ไปสู่ธุรกิจใหม่ ๆ หรือช่องทางใหม่ ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้า เพื่อสร้างการเติบโตจากโอกาสที่ยังเปิดกว้างจากพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยที่ ให้ความสำคัญเกี่ยวกับความสวยความงามเป็นอันดับต้น ๆ
นายพลภัทร จันทร์วิเมลือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบฯ 500 ล้านบาท ส่วนหนึ่งจะนำไปรีโนเวตสาขาเดิม 50 สาขา จาก 120 สาขาที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้บริการไลน์ศัลยกรรมและบอดี้คอนทัวร์ เพื่อตอบสนองกลุ่มลูกค้าที่ต้องการความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จากเดิมบริการที่มีจะสวยอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ศัลยกรรมจะตอบสนองลูกค้าที่ต้องการสวยแบบทันที และรองรับการขยายลูกค้าต่างประเทศที่เข้ามาใช้บริการศัลยกรรมในไทยมากขึ้น
สำหรับตลาดศัลยกรรมมีการเติบโตอย่างมาก ปัจจุบันมีมูลค่า 10,000 ล้านบาท เติบโต 20% ขณะที่ตลาดคลินิกความงามมีมูลค่า 20,000-30,000 ล้านบาท โต 10-15% โดยศัลยกรรมจะมีมาร์จิ้นที่สูงกว่า ขณะนี้ได้เปิดสาขานำร่องที่เซ็นทรัล พระราม 9 ส่วนปีหน้ามีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 10 สาขา โดยจะเป็นแบรนด์ใหม่ ซึ่งอาจจะต่อด้วย “บายวุฒิ-ศักดิ์ คลินิก” เพื่อสร้างการรับรู้ โดยอยู่ระหว่างการศึกษา เจาะกลุ่มลูกค้า B ถึง B+ โดยให้บริการศัลยกรรมขนาดเล็ก อาทิ เสริมจมูก เสริมคาง ที่ทำเสร็จแล้วกลับบ้านได้
ส่วนอนาคตมีแผนเปิดเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมแบบครบวงจรขนาด 30-50 เตียง ใช้งบฯลงทุน 300-400 ล้านบาทภายใน 3 ปี เพื่อใช้สำหรับการศัลยกรรมที่ต้องผ่าตัดใหญ่ อาทิ ผ่าตัดไขมัน แปลงเพศ ฯลฯ เจาะกลุ่มลูกค้า B ถึง B+ เช่นกัน ชูจุดแข็งเรื่องทีมแพทย์ และการบริการที่จะมีโรงแรมระดับ 5 ดาวมาช่วยเทรนพนักงานเพื่อสร้างความประทับใจ แต่จะตั้งราคาที่ถูกกว่าการศัลยกรรมใน
ต่างประเทศถึง 5-10 เท่า ซึ่งคาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าสัดส่วนลูกค้าจากต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 50% จากปัจจุบันอยู่ที่ 30%
ปัจจุบัน วุฒิ-ศักดิ์ถือเป็นเบอร์หนึ่งในตลาดคลินิกความงาม และมีส่วนแบ่งตลาดอยู่กว่า 50% โดยตั้งแต่ปีหน้าหลังจากเปิดคลินิกศัลยกรรมคาดว่าจะสร้างการเติบโตเป็น 25% จากปัจจุบันอยู่ที่ 10-15%
ความเคลื่อนไหวอีกรายคือ ในส่วนของ “รมย์รวินท์คลินิก” ซึ่งอยู่ในตลาดคลินิกความงามระดับพรีเมี่ยม นางขวัญฤทัย ดำรงค์วัฒนโภคิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท รมย์รวินท์ คลินิก กล่าวว่า แม้จะใช้กลยุทธ์ขยายสาขาแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะต้องการรักษาเรื่องมาตรฐาน แต่จากนี้มีแผนที่จะนำผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์รมย์รวินท์เข้าไปเปิดในห้างสรรพ สินค้าในระดับเคาน์เตอร์แบรนด์
นางมาลินี ทรัพย์บริบูรณ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ภาพของแบรนด์เครื่องสำอางใหม่ ๆ จากทั่วทุกมุมโลกที่ทยอยเข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทย ในส่วนของคลินิกความงามก็เริ่มเห็นภาพการปรับตัวรับมือการแข่งขันที่รุนแรง ขึ้น โดยมีการใช้กลยุทธ์ขยายตลาดเข้าไปในหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ล่าสุดคลินิกความงาม “รมย์รวินท์” เตรียมที่จะเข้ามาเปิดสาขาในแผนกบิวตี้ฮอลล์ของห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ในรูปแบบเคาน์เตอร์แบรนด์ ซึ่งจะนำร่องสาขาแรกที่เดอะมอลล์ บางกะปิ ก่อนที่จะขยายไปเปิดสาขาอื่น ๆ
ด้านนางสาวบุญศรี พรหมดวง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดศูนย์ความงาม โรงพยาบาลยันฮี กล่าวว่า หลังจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ความงามภายใต้แบรนด์ยันฮีได้รับการตอบรับที่ดี ทิศทางจากนี้จึงมุ่งขยายช่องทางจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น อาทิ ร้านวัตสัน โดยวางจำหน่ายได้ 6 เดือนแล้ว จากเดิมที่มีในร้านเซเว่นฯ และเซเว่นแค็ตตาล็อก
นอกจากนี้ ยังสนใจจะขยายเข้าไปในไฮเปอร์มาร์เก็ตและร้านเทรดิชั่นนอลเทรด ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด เพื่อกระจายสินค้าให้เข้าถึงลูกค้ามากที่สุด ส่วนในร้านเซเว่นฯก็มีแผนเพิ่มสินค้าใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อ ดูแลรูปร่างและผิวพรรณ จากเดิมที่มี 2 เอสเคยู คือ ครีมหน้าขาว และครีมแต้มสิว ปัจจุบันยันฮีวางโพซิชันนิ่งจับตลาดแมส อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างศึกษาที่จะขยายไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่มพรีเมี่ยมเพื่อขยายฐานลูกค้า ใหม่เพิ่มขึ้น
ขอบคุณ www.prachachat.net , www.sanook.com