จากกรณีที่ตอนนี้ทางผู้สื่อข่าวของ ไบร์ททีวี ได้มีการตีแผ่คลินิกศัลยกรรมแห่งหนึ่ง ที่ได้ทำศัลยกรรมเสริมหน้าอกให้กับคนไข้รายหนึ่ง แล้วเกิดปัญหาหน้าอกนั้นเน่า ทำให้คนไข้คนดังกล่าวได้รับความเจ็บปวด และเสียหาย ซึ่งพบว่าไม่ได้มีผู้เสียหายแค่รายเดียว แต่มีรายหลาย และบางคนติดขนาดเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากการติดเชื้อ ล่าสุดอดีตพนักงาน คลินิกทำนมเน่า แห่งนี้ ได้ออกมาแฉถึงเรื่องราวในขณะที่เคยทำงานอยู่ที่คลินิกนี้ ว่าห้องผ่าตัดสุดสกปรก และตัดสินใจลาออกเพราะหมอจะให้ช่วยผ่าตัด เนื่องจากเขานั้นไม่มีความรู้ทางด้านนี้มาก่อนเลยสักนิดเดียว
โดยอดีตพนักงานคลินิกแห่งนี้ ได้ออกมาเปิดเผยว่า จากข้อมูลที่มีผู้เสียหายมาบอกว่า ห้องผ่าตัดนั้นไม่สะอาด สกปรก เป็นเรื่องจริง ซึ่งเธอเคยทำงานอยู่ในคลินิกดังกล่าว ได้เผยว่า อุปกรณ์ผ่าตัดทั้งหมดไม่ได้จัดเก็บในที่ปลอดเชื้อ รวมถึงห้องผ่าตัดก็ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีหลอดยูวีฆ่าเชื้อ และคุณหมอก็ยังคงเดินหน้าผ่าตัดศัลยกรรมให้กับคนไข้ ทั้งๆ ที่ห้องผ่าตัดไม่เอื้ออำนวยต่อการผ่าตัดศัลยกรรมใดๆ
และที่เลวร้ายกว่านั้นทำให้เธอตัดสินใจลาออกจากการเป็นพนักงานคลินิกนี้ คือคุณหมอได้ยื่นข้อเสนอให้เธอเป็นผู้ลงมือทำการเย็บแผล และร้อยไหมให้กับคนไข้ ทั้งๆ ที่เธอนั้นไม่เคยมีความรู้ในเรื่องดังกล่าวมาก่อน โดยบอกว่าจะมีค่าตอบแทนให้เป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวสอดคล้องกับการที่มีคนไข้หลายราย ออกมาเปิดเผยว่า นายแพทย์นั้นมักจะให้ พนักงานในคลินิก หรือที่เรียกว่า หัตถการ เป็นคนเย็บแผล ฉีดโบท็อกซ์ให้ และยังบังคับให้เซ็นเอกสารสัญญาว่า ห้ามนำข้อมูลการเข้ารับบริการในคลินิก ไปเผยแพร่ในโซเชียล และร้องเรียนหน่วยงาน ส่วนใหญ่รีวิวของทางคลินิกนั้น จะเป็นรีวิวลวงโลกที่ว่าจ้างเพจต่างๆ ให้ช่วยโฆษณาให้ เป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกวันนี้นายแพทย์รายนี้ติดอันดับนายแพทย์ฝีมือดีด้านศัลยกรรมเสริมหน้าอก
ทางด้าน นายแพทย์สุกิจ ทัศนสุนทรวงศ์ เลขาธิการแพทยสภา ได้ตรวจสอบเรื่องของที่มีผู้เสียหายหลายรายไปทำหน้าอก แล้วเกิดอาการติดเชื้อ ได้ออกมายืนยันว่า จากสภาพห้องผ่าตัดที่เห็นนั้น ไม่เอื้อต่อการผ่าตัด และดูแล้วสกปรก อีกทั้งจากการสังเกตบาดแผลที่เย็บบริเวณฐานหน้าอกของผู้เสียหายนั้น คาดว่าอาจจะเกิดจากการติดเชื้อจากภายใน เนื่องมาจากเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ในการผ่าตัดนั้นไม่สะอาด
และจากการตรวจสอบใบอนุญาตทางด้านวิชาชีพของนายแพทย์รายนี้ พบว่า มีเพียงใบอนุญาตเฉพาะด้านเวชกรรมเท่านั้น ดังนั้น แพทย์คนดังกล่าวไม่สามารถแอบอ้างว่าตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำศัลยกรรมหน้าอกได้ และได้บอกอีกว่า ผู้เสียหายทั้งหมดสามารถเข้ามาร้องเรียนได้ที่ทางแพทยสภา โดยจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป และจะเรียกแพทย์คนดังกล่าวเข้ามาสอบสวน หากมีความผิดจริง จะดำเนินการกฏระเบียบของแพทยสภาอย่างเด็ดขาด
ขอขอบคุณภาพ ที่มา และคลิปวิดีโอจากทาง Bright TV