นับเป็นเวลาเนิ่นนาน ดั่งตำนานเล่าขานในหมู่เกมเมอร์โดยทั่วไป กับที่มาของชื่อเกม RPG ระดับตำนาน Final Fantasy ที่บ้างก็บอกว่า ในตอนนั้นบริษัท Square (ก่อนจะรวมกับ Enix กลายเป็น Square Enix ในปัจจุบัน) ประสบปัญหาด้านการเงินอย่างมาก และได้ระดมทุนก้อนสุดท้ายทำเกม Final Fantasy ออกมา ซึ่งนี่จะเป็นเกมสุดท้ายของบริษัทถ้าหากว่าไม่ประสบความสำเร็จ หรืออีกเรื่องเล่านึงก็คือว่า หากเกมนี้ไม่ประสบความสำเร็จ Sakaguchi Hironobu บิดาของซีรี่ย์นี้จะลาออกจากบริษัทและถอนตัวจากวงการเกมกันเลยทีเดียว
แต่มาวันนี้ความจริงได้ถูกเปิดเผย และตำนานที่เล่าขานอาจกลายเป็นเรื่องตลก เมื่อ Sakaguchi Hironobu ได้ขึ้นพูดบรรยายที่มหาวิทยาลัย Ritsumeikan ใน Kyoto และเปิดเผยว่าตำนานเกมสุดท้ายอะไรนั่น เป็นความเข้าใจของเหล่าเกมเมอร์เอง ในความเป็นจริงก็คือ ตอนนั้นปี 1987 ทีมงานค่อนข้างลำบากในการทำเกมออกมาในระบบ 8-bit บนเครื่อง Famicom ที่มีอายุเจนนาน 4 ปีแล้ว แต่ว่าเรื่องของชื่อเกมนั้น เป็นในแง่ของการตลาดมากกว่า โดยตอนตั้งชื่อ ทีมงานอยากได้ชื่อที่ย่อมาแล้วออกเสียงได้ 4 พยางค์ และ “FF” ก็เป็นชื่อที่เหมาะเจาะพอดี (คนญี่ปุ่นออกเสียง “FF” ว่า “efu efu”)
สำหรับคำว่า “Fantasy” ก็ตรงไปตรงมา บ่งบอกถึงแนวและสไตล์เกมได้เป็นอย่างดี ส่วนคำว่า “Final” อันเป็นที่มาของตำนานเกมสุดท้ายนั้น ไม่ใช่ว่าจะเป็นเกมสุดท้ายหรอก โดยตอนแรกทีมงานตั้งใจว่าจะใช้ชื่อเกม “Fighting Fantasy” แต่ปรากฏว่าชื่อนี้ซ้ำกับหนังสือเกมของอังกฤษไปก่อนแล้ว เลยไปจบลงที่คำว่า “Final” แบบที่เห็นกันจนปัจจุบันนี่ล่ะ
Sakaguchi Hironobu รับหน้าที่เป็น โปรดิวเซอร์ให้เกมซีรี่ย์ Final Fantasy จนถึงภาค Final Fantasy XI จนถึงปี 2004 กับหนัง Final Fantasy: The Spirits Within ที่ไม่ประสบความสำเร็จตามคาด จึงได้ลาออกจาก Square และไปเปิดสตูดิโอ Mistwalker