รีวิวลดน้ำหนักหลายๆ รีวิวที่เรานำเสนอ มักจะมีเหตุการณ์บางอย่างที่ฉุดให้เขาต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อตัวเองโดยลำพัง แต่สำหรับสองคู่หูสุดซี้กันนี้ ถือเป็นเพื่อนแท้ ที่ไม่ใช่แค่ชวนกันกินได้ แต่ยังพากันออกออกกำลังกายจนหุ่นนี่ผอมเพรียวสวยเลย โดยรีวิวนี้จาก 2 คู่หูสุดซี้ จากผู้ใช้พันทิบ สมาชิกหมายเลข 2273781
สวัสดีค่าาา พี่น้องชาวพันทิป (ยิ้ม) นี่เป็นกระทู้แชร์ประสบการณ์และเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่มีน้ำหนักมากกว่าเกณฑ์ทุกๆคน ที่กำลังคิดจะลดหรือลดน้ำหนักอยู่ เรากับรูมเมทคู่หูเจอกันตอนปีหนึ่ง เรียนคณะเดียวกัน สาขาเดียวกัน (ราวๆ 5 ปีที่แล้ว) และปี 2 เราก็ย้ายมาอยู่หอเดียว นั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมดดดดดด….. 555555
คือพวกเราอ้วนกันอยู่แล้ว น้ำหนักเกินกันทั้งสองนาง 5555 แต่ที่บอกว่ามันเป็นจุดเริ่มต้น เพราะนี้ยังไม่ถึง “ขั้นสูงสุด” ของพวกเราค่ะ (ยังจะไปไกลกว่านี้อีกกกกกก55555)
ปล.1 คนซ้ายคือคนที่กำลังเขียนกระทู้พลีชีพ ส่วนคนขวาคือรูมเมทที่รู้เห็นเป็นใจในการพลีชีพครั้งนี้5555
ปล.2 กระทู้นี้เขียนเอาฮา แชร์ประสบการณ์ หวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคน ไม่มากก็น้อยค่ะ ผิดถูกขออภัยนะคะ
หลังจากเราอยู่หอนอก บวกกับนอนดึกเป็นประจำ เราก็เริ่มกินไม่เป็นเวลา ตื่นสายกินข้าวเช้าตอนเที่ยง ข้าวเที่ยงตอนเย็น ข้าวเย็นตอนดึก และสิ่งหนึ่งที่แก๊งค์เราชื่นชอบคือ “บุฟเฟ่ต์” ไม่ว่าจะชาบิชุ ฮ๊อดพ๊อด พิซซ่าโปรๆ และที่ขาดไม่ได้คือ “หมูกะทะหลังมอ” เรียกว่าตระเวณกินกันเป็นวรรคเป็นเวร 55555 เดือนๆ นึงเราไปแทบทุกอาทิตย์ค่ะ ส่วนเรื่องออกกำลังกาย คืออะไร ไม่รู้จักกกกก ไปดูรูปกันยาวๆๆ นะคะทุกคน อดีตของเราสองคน 555555
กระทู้เน้นรูปนะ จขกท. คิดว่ารูปมันชัดเจนกว่าคำพูด มันแทนความพยายามทั้งหมดของเรา 55555
พวกเราและผองเพื่อนยังคงกิน กิน กินและกิน 5555 เรายังบ่แคร์เรื่องความสวย เรียกได้ว่า “เรียน เครียด หมูกะทะ” เรื่องกินและน้ำหนักเรายังคงดำเนินการเลื่อนขั้นขึ้นไปเรื่อยๆ จนน้ำหนักที่เห็นในรูป
จขกท. 77 ก.ก. (สูง 165)
รูมเมท 68 ก.ก. (สูง 155)
ตอนนั้นอยู่ในช่วงปี 2 ปี 3 แล้ว ซึ่งในปี 3 นี่ละคือจุดเปลี่ยนของเรา ในปี 3 จะมีโปรเจคปรับบุคลิกภาพ และนี่คือจุดเล็กๆที่ทำให้เราเริ่มลดน้ำหนักกัน พอจบโปรเจคก็ทำให้เรารู้ว่า จริงๆแล้วถ้าพยายาม ยังไงก็ทำได้ ช่วงที่ลด เราไปว่ายน้ำกันค่ะตอนเช้า เย็นมีวิ่ง เริ่ม “ลด ละ เลิกหมูกะทะ” คิดมากขึ้นว่าจะกินอะไร ส่วนมากพอลดของมัน หวาน น้ำหนักก็ลงเรื่อยๆ เปลี่ยนไปเยอะค่ะ รูปช่วงที่ลด แต่จำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นเท่าไหร่
แต่ก่อนที่จะไปเห็นรูปตอนปี 4 จนถึงปัจจุบัน (เรียนจบทำงานกันแล้วค่ะ) ขอพูดถึงเรื่องวิธีการ แล้วก็ทำไมเราถึงใช้เวลานานถึง 2 ปี? 55555 จะมาเล่าให้ฟังค่ะ ที่ใช้เวลานานเป็นเพราะทำ ลด เลิก ท้อ เครียด เรียนใกล้จบจะรู้กันดีค่ะ บ่มีกระจิตกระใจ แถมอยากกินของมันๆทอดๆ ก็ทำไม่ได้ เลยมีปล่อยตัวปล่อยใจบ้างอะไรบ้าง ทำให้น้ำหนักขึ้นๆ ลงนิดๆ แล้วขึ้นๆๆๆ 5555
โดยส่วนตัวจขกท ลองมาหมดเเล้ว นับแคลเอย กินน้อยเอย โยโย่มาแล้ว จนสุดท้ายพอเรียนจบจริงๆ ไม่มีเรื่องเรียนให้เครียดแล้ว เรากลับมาฮึบอีกครั้ง ในโค้งสุดท้ายก่อนรับปริญญา วิธีที่เวิคที่สุดคือ “การเลือกทานอาหาร” และการ “ออกกำลังกาย”
:: เรื่องอาหาร ::
ทานคลีนค่ะ มีชีทเดย์ 1 วัน/สัปดาห์ ห้ามอดเด็ดขาด! เพราะเราอดอาหารไม่ได้ไม่ตลอดแน่ๆ กินเมื่อไหร่ น้ำหนักก็กลับมาค่ะ
(อาหารคลีนสามารถหาอ่านได้ตามกระทู้ต่างๆเลยค่ะ ที่แนะนำกัน)
:: การออกกำลังกาย ::
มองหาที่เราชอบ เพราะเราจะสนุกที่ได้ทำ ช่วงปี 3-4 จขกทกับรูมเมทชอบไปว่ายน้ำ(แก้ร้อน) กับวิ่ง
และช่วงหลังที่เรียนจบเเล้ว น้ำหนักจขกท อยู่ที่ 68 ก.ก. เราเริ่มเล่น Insanity + วิ่ง (ุ6วัน/สัปดาห์) แล้วก็คุมอาหารไปด้วย
ทำอย่างจริงจัง 5 เดือน ลดไป 8 ก.ก. ค่ะ
:: การพักผ่อน ::
อันนี้ก็สำคัญ จขกท มองว่ามีส่วนมากๆ พอเราเรียนจบทำงาน ตารางเวลาจะชัดเจนมากขึ้น ทำให้เข้านอนตรงเวลา ตื่นตรงเวลา
:: การดื่มน้ำ ::
ปรับให้ดื่มน้ำบ่อยๆ ตอนนี้เฉลี่ยที่วันละ 1.5 – 2 ลิตร // ส่วนตัวไม่ทานกาแฟอยู่เเล้ว เลยไม่ติดค่ะ เลิกพวกเครื่องดื่มทุกอย่างที่ไม่ใช่น้ำเปล่า ยกเว้นน้ำเต้าหู้กับดอยคำค่ะ
:: หมูกะทะและบุพเฟ่ต์ (รางวัล) ::
นานๆครั้ง แบบมีวินัย โดยปกติลดน้ำหนักก็งดไปเลยดีกว่าค่ะ เก็บรางวัลนานๆครั้งแบบนี้ไว้ใช้ตอนจำเป็น เช่น ต้องไปงานเลี้ยง สังสรรค์ ที่เราเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ผอมเมื่อไหร่ เราจะกินแบบสุขทั้งกายและใจ
ข้อสุดท้ายแล้ววววว
:::: จิตใจ ::::
ต้องเข็มแข็ง มั่นคง เสพแรงบันดาลใจเยอะๆ เลิกแคร์คำล้อเลียน ถ้าเราทำได้ คนที่ได้ก็คือเรา เมื่อเรากลับมามองที่เราจะภูมิใจจนอธิบายไม่ถูกเลยละค่ะ “ถ้าเราพยายาม ยังไงก็สำเร็จ”
สุดท้ายสิ่งที่เราได้มากกว่าคือเราจะเคารพตนเองและผู้อื่นมากขึ้น คำล้อมากมายที่เราเจอ เราจะเข้าใจ ไม่มีใครอยากถูกล้อ ไม่มีใครอยากถูกไล่ไปกินอ้อย (ช้านเคยเจ็บบบบ5555) เราจะรู้ว่าคนอ้วนทุกคนไม่ขำ ไม่ได้เป็นตัวตลก เวลาที่คนรอบข้างเสียดสีเรา นอกจากจิตใจที่แข็งแกร่งขึ้น สุขภาพที่ดีเป็นสิ่งที่ตามมา ประจำเดือนจะมาปกติ ลดความเสี่ยงเรื่องเบาหวาน ไม่ปวดหลังสำหรับ
ทุกอาชีพที่ทำงานกับคอมพิวเตอร์บ่อยๆ ไม่หายใจอึดอัดเวลานั่งยองๆ ได้เพื่อนใหม่ๆจากการออกกำลังกาย และพฤติกรรมการออกกำลังกายนี้ จะส่งไปยังคนรอบข้าง อย่างตอนนี้พ่อแม่ จขกทก็ไปเดินๆวิ่งๆกันทุกเช้า หลังจากที่ไม่เคยออกกำลังกายเลยนี่เป็นสิ่งที่ดีและเราได้รับมันจริงๆ ขอให้สู้ๆค่ะ
อันนี้รูปช่วงปี 4 ใกล้จะจบ (ต้นๆปีมั้ง จำไม่ได้ 5555)
อันนี้รูปช่วงปลายปีที่แล้ว รับปริญญา-จนถึงปัจจุบัน