ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

ฆ่าอำมหิตเศรษฐีเฒ่า เจ้าของธุรกิจอพาร์ตเมนต์ ฆาตกรเป็นหนุ่มขายไก่ย่างและยังเป็นลูกน้องคนสนิท ลวงจากบ้านในกรุงเทพฯ ไปพบที่สุพรรณบุรี แล้วฉวยโอกาสผู้ตายนอนหลับ ฟาดด้วยเหล็กแป๊บตายสยอง ก่อนจะลากศพหมกบ่อเกรอะ แล้วเชิดเอารถกระบะ เมียแจ้งตำรวจตามรวบตัวไว้ได้ อ้างแค้นถูกบังคับอมนกเขา

EyWwB5WU57MYnKOuXuYC3Amc47ljrxPDpY68v89s6oD3CZkCNDJbtp

หนุ่มพ่อค้าขายไก่ย่างลวงฆ่าเศรษฐีเฒ่ายัดบ่อเกรอะรายนี้เปิดเผยเมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 22 ก.ค. ร.ต.ท.อัจรี วุฒิวัฒนา พนักงานสอบสวน สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งมีคนถูกฆ่ายัดบ่อเกรอะหลังบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 6 ต.ต้นตาล จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุเมธ สุนทร ผกก. พ.ต.อ.ไชยพัฒน์ เจริญหัว พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ต.ท.ไพบูลย์ วาสนาม รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.คมเดช ดอนปิ่นไพร รอง ผกก.สส. แพทย์เวร รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 และหน่วยกู้ภัยสองพี่น้อง

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ปลูกอยู่ริมคลองลาดตะเพียน ภายในบ่อเกรอะหลังบ้านพบร่างผู้เสียชีวิตทราบต่อมาชื่อ นายบัญญัติ เกียรติโกศลกุล อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/1101 ถนนเสรีไทย 57 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ ลักษณะศพหัวทิ่ม เท้าโผล่ขึ้นมาจากบ่อเกรอะ สวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น ศีรษะมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งจนกะโหลกแตก สภาพขึ้นอืด มีหนอนไต่ยั้วเยี้ย คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 7 วัน นำศพส่ง รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนคนร้ายตำรวจควบคุมตัวเอาไว้ได้ขณะย้อนกลับมาที่เกิดเหตุทราบชื่อ นายไพศาล ตนสาลี อายุ 24 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 80 หมู่ 7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบันพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุ

นางพยุง เกียรติโกศลกุล อายุ 62 ปี ภรรยาผู้ตายเผยว่า สามีเป็นเจ้าของกิจการอพาร์ตเมนต์หลายแห่งในกรุงเทพฯ และยังใช้เวลาว่างมาทำสวนมะนาวในพื้นที่ อ.สองพี่น้อง หลายไร่ เมื่อวันที่ 14 ก.ค.ที่ผ่านมา สามีออกจากบ้านในกรุงเทพฯ โดยบอกกับตนว่าออกไปหานายไพศาล ตนสาลี พ่อค้าขายไก่ย่างที่ตลาดบางลี่ และเป็นคนสนิทที่สามีไว้ใจชวนมาทำงานเฝ้าสวนมะนาว

โดยสามีขับรถกระบะโตโยต้าสปอร์ตครุยเซอร์ไปด้วย กระทั่งรุ่งเช้าของวันใหม่ ตนโทรศัพท์ไปหาสามี แต่ไม่รับสาย โทร.ไปสอบถามตามบ้านญาติก็ไม่มีใครพบเห็น หลังเวลาผ่านไปหลายวัน คิดว่าต้องเกิดเหตุร้ายกับสามีแน่แล้ว เพราะปกติสามีไม่ดื่มสุรา และไม่เคยมีเรื่องขัดแย้งกับใครมาก่อน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความตำรวจ สภ.สองพี่น้อง ช่วยตามหา

กระทั่งพบนายไพศาลอยู่ที่บ้านเกิดเหตุ แต่ไม่พบสามีและรถ สอบถามนายไพศาลให้การมีพิรุธ แต่ในที่สุดยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่านายบัญญัติ แล้วนำศพไปทิ้งบ่อเกรอะหลังบ้าน ส่วนรถนำไปฝากเพื่อนไว้ ตำรวจจึงตามไปยึดรถคืน

ในขณะที่นายไพศาล ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า รู้จักกับนายบัญญัติผู้ตายมานานแล้ว ก่อนหน้านี้ได้ไปยืมเงินผู้ตายมา 5,000 บาท และยังอ้างด้วยว่าผู้ตายมีพฤติกรรมชอบไม้ป่าเดียวกัน ก่อนหน้านี้เคยบังคับให้ตนอมนกเขา พร้อมข่มขู่ห้ามนำเรื่องไปบอกใคร ทำให้เกิดความแค้น ก่อนเกิดเหตุวางแผนฆ่าผู้ตายโดยออกอุบายให้ผู้ตายขับรถไปหาที่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งตนเช่าพักอาศัยอยู่คนเดียว เนื่องจากภรรยาเพิ่งติดคุกในคดีฆ่าไปไม่นาน

ขณะที่นอนพักอยู่ด้วยกัน ตนฉวยโอกาสผู้ตายนอนหลับ ใช้เหล็กแป๊บ ที่เตรียมไว้กระหน่ำตีเข้าที่ศีรษะหลายครั้งจนแน่ใจว่าเสียชีวิต จากนั้นลากศพไปทิ้งในบ่อเกรอะหลังบ้าน แล้วนำรถผู้ตายไปฝากเพื่อน ก่อนจะย้อนกลับมาที่บ้านทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กระทั่งถูกตำรวจบุกเข้ามาจับกุม หลังสอบปากคำตำรวจควบคุมตัวนายไพศาลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพท่ามกลางเสียงสาปแช่งของชาวบ้านที่มายืนมุงดูการทำแผนฯจำนวนมาก

เบื้องต้นตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหาที่ระบุว่าผู้ตายมีพฤติกรรมชอบไม้ป่าเดียวกันและบังคับให้ผู้ต้องหาอมนกเขา คาดว่าเป็นการกล่าวอ้างเพื่อให้พ้นผิดมากกว่า โดยตำรวจยังพุ่งปมสังหารไปที่เรื่องชิงทรัพย์ อาจเป็นไปได้ว่าผู้ต้องหาต้องการทรัพย์สินจากผู้ตาย เพราะเห็นว่าผู้ตายเป็นคนมีฐานะ จึงวางแผนลวงไปพบที่บ้านแล้วฉวยโอกาสลงมือสังหาร ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบว่านอกจากรถกระบะแล้วยังมีทรัพย์สินอะไรหายไป

เรื่องน่าสนใจ