เตรียมเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์แล้วสำหรับ 2 นักแสดงและพิธีกรชื่อดัง จอนนี่ แอนโฟเน่ วัย 46 ปี และ เปิ้ล-นาคร ศิลาชัยวัย 51 ปี โดยในวันที่ 3 ก.พ. เวลา 10.00 น. ที่วัดเทพศิรินทราวาส ราชวรวิหาร ทั้งคู่ได้เข้าร่วมพิธีปลงผมนาคหมู่ จำนวน 108 คน ซึ่งนาคทั้งหมดจะเดินทางไปทำพิธีอุปสมบท ณ แดนพุทธภูมิ ลานพระศรีมหาโพธิ์ ประเทศอินเดีย เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ระหว่างวันที่ 4-15 ก.พ. นี้ โดยจอนนี่ได้รับฉายาทางธรรมว่าฉนฺทชาโต แปลว่า ผู้เกิดมาด้วยความเพลิดเพลิน ส่วนเปิ้ลได้รับฉายาทางธรรมว่า นาคโร แปลว่า ผู้กล้า
บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความตื้นตันจาก นก-จริยา แอนโฟเน่ ภรรยาของจอนนี่ และ จูน-กษมา มยุมาศภรรยาของเปิ้ล ที่มาพร้อม 2 ตัวแสบ น้องออกัส – ออก้า นอกจากนี้ยังมีคนสนิทในวงการบันเทิงมาร่วมพิธีคับคั่ง อาทิประวิทย์ มาลีนนท์, หน่อง-อรุโณชา ภาณุพันธ์, ต้อย-เศรษฐา ศิระฉายา, อรัญญา นามวงศ์, นีโน่-เมทนี บูรณศิริ, โบ๊ท วิบูลย์นันท์, อาร์ม-วิบูลย์ ลีรัตนขจร ฯลฯ
โดยก่อนเริ่มพิธี จอนนี่กล่าวว่า ตนเคยบวชครั้งนึงเมื่อ 10 ปีก่อน แต่คราวนี้สมเด็จธีรญาณมุนี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทรฯ เป็นผู้ชวนให้บวช ซึ่งก็ใช้เวลาตัดสินใจ 2-3 วัน กระทั่งคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีซึ่งจะทำให้จิตใจนิ่งสงบ ได้พักจิต ถือศีล 227 ข้อ อีกทั้งได้ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และบวชเพื่อผู้มีพระคุณหลายคน เช่น ประวิทย์ มาลีนนท์
“ภรรยาและลูกก็ยินดีกับการบวชครั้งนี้ แต่กลัวว่าเราจะไปลำบากด้วยความเป็นห่วงตามประสา แต่ผมคิดว่าไม่น่าจะลำบากอะไร หลังจากครบกำหนดวันที่ 15 ก.พ. ก็ตั้งใจจะบวชต่ออีก 2 สัปดาห์ เพราะอยากทำให้จิตใจสงบนิ่งและสำรวจตัวเอง เลยอยากจะขอปลีกตัวไปอยู่วัดป่าคนเดียว เพื่อศึกษาธรรมะกับอาจารย์ต่างๆ สัก 2 สัปดาห์ กำลังพอดี ไม่เร็วและไม่นานเกินไป”
ด้านเปิ้ลกล่าวว่า ตนหนีการบวชมาตลอดชีวิต ถึงขั้นเคยพูดกับตัวเองว่าชาตินี้จะไม่ยอมบวช นี่จึงเป็นการบวชครั้งแรกในชีวิต ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าเลยอายุที่จะบวชแล้ว อีกทั้งยังมีห่วงหลายๆอย่าง แต่เมื่อตัดสินใจว่าจะบวชก็เริ่มเข้าวัดบ่อยขึ้นและมองเห็นอะไรบางอย่าง จนคิดว่าเดินมาถูกทางแล้ว โดยจากนี้จะเดินทางไปแสวงบุญที่สถานที่ที่พระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ที่ประเทศอินเดียและเนปาล และจะสึกในวันที่ 16 ก.พ. เพราะมีภารกิจที่ต้องกลับมาทำ
“การบวชครั้งนี้สิ่งที่ผมตั้งใจที่สุดคือบวชให้คนที่ผมรักที่สุดในชีวิต คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คนที่ 2 คือแม่ของเรา คนที่ 3 คือภรรยา คนที่ 4 คือลูก คนที่ 5 คือ ประชาชนคนไทยทุกคนที่ให้โอกาสที่ให้ชีวิตกับเราจนมายืนอยู่ตรงนี้ได้”
