นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) กล่าวว่า หลังจากที่มีประชาชนร้องเรียนว่า มีคลินิกรับฉีดเฟรชเซลล์ เพื่อรักษาโรคเส้นเลือดในสมองตีบ โดยเสียค่ารักษาไป 2 ล้านบาทเศษ แต่อาการไม่ดีขึ้นนั้น จริงๆ แล้วแพทยสภามีประกาศหลักเกณฑ์การรักษาโรคด้วยสเต็มเซลล์เพียงแค่โรคเกี่ยวกับโลหิตเท่านั้น
การโฆษณาว่าสามารถรักษาโรคอื่นๆ ได้ จึงไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และมาตรฐานการรักษา ซึ่งจากการตรวจสอบคลินิกต่างๆ ที่โฆษณาว่ารักษาโรคอื่นและช่วยคืนความหนุ่มสาว ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทั้งหมด 4 แห่ง
พบกระบวนการคล้ายกันคือ มีสถานที่ให้คำปรึกษาและมีแพทย์ประจำคลินิกเพื่อตรวจร่างกาย เจาะเลือด ซักประวัติ และส่งไปฉีดที่ประเทศเยอรมนี โดยคิดค่าบริการในหลักล้านบาท
นพ.บุญเรือง กล่าวว่า ทั้งนี้ คลินิกแห่งแรกคือ ที่มีการร้องเรียนในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พบว่ามีความผิดฐานโฆษณา ตามมาตรา 38 และผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 กรณีใช้ชื่อคลินิกไม่ตรงกับชื่อที่ได้รับอนุญาต
2 บางกอกเมดิคอล ย่านเอกมัย พบว่า ไม่มีผู้ดำเนินสถานประกอบการตามใบอนุญาต แต่มีแพทย์คนอื่นทำงานอยู่ โดยได้ดำเนินคดีในเรื่องการโฆษณาไปแล้ว 3.คลินิกย่านทองหล่อ 55 ซึ่งมีนางแอน มิตซูโอะ เป็นผู้ดำเนินการ พบว่าแพทย์ผู้ขออนุญาตไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ โฆษณาโอ้อวด ไม่มีป้ายชื่อตามที่ขออนุญาต
และตรวจพบการใช้ยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนในสถานประกอบการ และ 4.สถานประกอบการในอาคารเพลินจิต ซึ่งแห่งนี้พบว่าเป็นแหล่งใหญ่ มี 5 สาขา โดยมีแพทย์ชาวเยอรมันมาทำการตรวจร่างกาย ซักประวัติ และมีการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย
“สบส.ได้ดำเนินการตามกฎหมายในสถานพยาบาลทั้ง 4 แห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการขอคำวินิจฉัยจากแพทยสภา เพื่อให้แพทยสภาตีความในประเด็นที่สถานพยาบาลที่เป็นผู้เริ่มต้นกระบวนการให้การรักษาด้วยการวินิจฉัย เจาะเลือด ตรวจร่างกาย เพื่อให้บริการสเต็มเซลล์รักษาโรคโดยไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
แม้ว่าจะส่งต่อไปยังต่างประเทศ จะเข้ามาตรา 49 พ.ร.บ.สถานพยาบาล หรือไม่ หากเข้าจะทำให้มีสิทธิสั่งระงับการให้บริการได้ ทั้งนี้ กำลังมีการร่างกฎหมายเพื่อคุ้มครองประชาชนจากการรับบริการสเต็มเซลล์ เพื่อกำหนดรายละเอียดการให้บริการอย่างละเอียดต่อไป ซึ่งเน้นในการคุ้มครองประชาชน” อธิบดี สบส. กล่าว
ที่มา ผู้จัดการ