ความนิยมของคนในกลุ่มวัยรุ่นนั้นมี ความแปรเปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา บางครั้งก็มีลักษณะหวือหวาไปตามกระแส เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา แต่บางอย่างก็สะท้อนแนวโน้มระยะยาวได้ ก่อนหน้านี้เคยมีข้อมูลการสำรวจเป็นระยะ ๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าวัยรุ่นถอยห่างจากเฟซบุ๊กไปหาเครือข่ายโซเชียลมีเดียตัว อื่น ๆ แทน เช่น ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม หรือสแนปแชต แต่ก็ยังเป็นข้อมูลที่ไม่นิ่ง เพราะมีลักษณะขึ้นลงเร็วมาก
ล่าสุดมีผลการสำรวจอีกชิ้นโดยบริษัทวาณิชธนกิจ Piper Jaffray แม้ว่าจะเป็นการสำรวจเฉพาะในสหรัฐอเมริกา แต่ก็เป็นแนวโน้มที่น่าสนใจเพราะวัยรุ่นทั่วโลกจะมีลักษณะร่วมกันบางประการ
การสำรวจครั้งนี้ใช้กลุ่มตัวอย่าง 7,200 คน ใน 41 มลรัฐ อายุระหว่าง 13-19 ปี เพศหญิงร้อยละ 47 เพศชายร้อยละ 53 อยู่ในครอบครัวที่มีรายได้เฉลี่ย 59,000 เหรียญ สำรวจในช่วงระหว่าง 25 เมษายน-30 กันยายนที่ผ่านมา
ผลการสำรวจพบว่า สัดส่วนการใช้เฟซบุ๊กของกลุ่มตัวอย่างลดลงอย่างฮวบฮาบ เหลือไม่ถึงครึ่งหรือเหลือร้อยละ 45 เทียบกับการสำรวจครั้งก่อนหน้าที่มีสัดส่วนร้อยละ 72 ขณะที่อินสตาแกรมเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 76 จากร้อยละ 69 โซเชียลมีเดียอื่น ๆ ลดลงแต่ไม่มากหรือคงที่ ยกเว้นกูเกิลพลัสที่ลดมากหน่อยจากร้อยละ 29 เหลือเพียงร้อยละ 12
การที่วัยรุ่นผละจากเฟซบุ๊กนั้น เดิมทีอาจจะมีกระแสเกี่ยวกับเรื่องการโจรกรรมข้อมูลหรือการสอดแนมโดยหน่วยงานของรัฐ ทว่า โดยพื้นฐานแล้วอยู่ที่เรื่องความเป็นส่วนตัว วัยรุ่นต้องการหลีกหนีจากผู้ใหญ่ที่เป็นคนต่างวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ปกครองต้องการสื่อสารกับคนในวัยใกล้เคียงกันมากกว่า ขณะที่บนเฟซบุ๊กมีลักษณะค่อนข้างเปิดเกินไปสำหรับพวกเขา
ไม่น่าแปลกใจที่เราจะเห็นพวกดารา นักร้อง ใช้อินสตาแกรมกันเกร่อ เพราะกลุ่มเป้าหมายรวมตัวกันอยู่ที่นั่น ธุรกิจอะไรก็ตามที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น อินสตาแกรมย่อมเป็นสะพานเชื่อมให้เข้าถึงคนเหล่านั้นได้ดี
ความจริงแล้วเฟซบุ๊กเองก็รู้เรื่องนี้ดีถึงได้ทุ่มเงินถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซื้อกิจการอินสตาแกรมมาตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อน วัยรุ่นในช่วงอายุนี้วันหนึ่งก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปจากเดิม อินสตาแกรมเป็นโซเชียลมีเดียที่มีแนวโน้มเติบโตสำหรับคนกลุ่มนี้ และเฟซบุ๊กเตรียมหาทางทำเงินจากอินสตาแกรมแล้ว โดยเริ่มทดสอบการส่งโฆษณาเป็นภาพนิ่งและวิดีโอสู่กลุ่มเป้าหมาย
ข้อมูลการสำรวจของ Piper Jaffray ครั้งนี้ยังมีส่วนอื่นที่น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับการอ่านแนวโน้มของวัยรุ่น เช่น ร้อยละ 73 บอกว่าโทรศัพท์เครื่องต่อไปที่พวกเขาจะซื้อ คือ ไอโฟน เทียบกับร้อยละ 19 ที่จะซื้อโทรศัพท์แอนดรอยด์ เทียบกับการสำรวจครั้งก่อนร้อยละ 67 จะซื้อไอโฟน และร้อยละ 24 จะซื้อแอนดรอยด์อย่างน้อยข้อมูลนี้บ่งชี้ว่า วัยรุ่นอเมริกันนิยมไอโฟนมากกว่าและมากขึ้นเรื่อย ๆ
ขณะที่ความนิยมที่มีต่อ แอปเปิล วอทช์ นวัตกรรมใหม่ของแอปเปิลค่อนข้างต่ำ มีเพียงร้อยละ 16 ที่สนใจจะซื้อ ในขณะเดียวกัน คนที่มีสมาร์ทวอทช์อยู่แล้วก็มีเพียงร้อยละ 7 เท่านั้น ส่วนหนึ่งน่าจะเพราะนาฬิกาข้อมือเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับวัยรุ่น
สำหรับกลุ่มวัยรุ่นสมาร์ทวอทช์คงต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยที่จะเข้าถึง และส่วนใหญ่แล้วก็ไม่ได้ลงมาเล่นกับกลุ่มนี้ เพราะแทบทุกรายเน้นขายฟังก์ชั่นที่เกี่ยวกับด้านสุขภาพหรือฟิตเนสมากกว่า ซึ่งไม่ใช่ของสำหรับวัยรุ่น
ที่มา ข่าวสด