ตำรวจ กก.2 บก.ปคบ. รวบเครือข่าย 3 คลินิกทำนมเน่า มีนายหน้าหาลูกค้าผ่านโฆษณาเฟซบุ๊ก อ้างใช้แพทย์เชี่ยวชาญ แต่ผ่าจริงกลับไม่เป็นตามอ้าง ขณะผู้เสียหายแห่เอายกทรงที่ซื้อแล้วใส่ไม่ได้เพราะนมผิดรูป จะเอามาให้หมอ แต่โดนตำรวจกันให้อยู่ดูหน้าห่างๆ เกรงจะอดใจทำร้ายหมอไม่ได้
เมื่อเวลา 10.30น. วันที่ 12 ธันวาคม ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับผู้บริโภค (บก.ปคบ.) พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศิร์ธัชเขตต์ ครูวัฒนเศรษฐ์ ผบก.ปคบ.
ร่วมแถลงผลจับกุม เครือข่ายหลอกลวงทำศัลยกรรมเสริมความงามแอลบีคลีนิก (LB Clinic) จ.ปทุมธานี และ เอ็มซีคลีนิก(MC Clinic) ในละแวกพหลโยธิน และมาสเตอร์พีชคลินิก ย่านสยามสแควร์ แขวงและเขตปทุมวัน กรุงเทพฯ หลังมีผู้เสียหายจำนวนมากเข้ารับบริการแล้วเกิดปัญหาเต้านมเน่า โดยมี น.ส.ดิธินี ใจกุศล อายุ 33 ปี ทำหน้าที่เป็นนายหน้าหาลูกค้า และ น.ส.หฤทัย รัตนวิไลสกุล อายุ 32 ปี แพทย์ทำศัลยกรรม
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เมื่อประมาณต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้พบเห็นโฆษณาศัลยกรรมเสริมความงามผ่านเฟซบุ๊ก โดยมีคลีนิกดังกล่าว ระบุการทำศัลยกรรมด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง พร้อมระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน มีค่าบริการ 21,000 บาท และค่ายาอีก 1,000บาท โดยมีภาพประกอบโฆษณาดังกล่าวจึงเกิดความสนใจ และติดต่อกลับไปในเพจดังกล่าว โดยมี นางลลิตา แก้วใส เป็นผู้แทนการติดต่อกับผู้เสียหายและได้พูดคุยกันผ่านแชตไลน์ ซึ่งจะได้รับค่านายหน้าหัวละ 3-5 พันบาท
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า นางลลิตา ได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปตรวจเลือดเพื่อนำผลการตรวจไปมอบยัง มาสเตอร์พีชคลินิก ต่อมาวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้เสียหายได้เดินทางไปรับการผ่าตัดที่ มาสเตอร์พีชคลินิก โดยมี น.ส.หฤทัย เป็นผู้ดำเนินการผ่าตัดเสริมหน้าอก ก่อนจะนัดหมายให้ผู้เสียหายไปตรวจแผลผ่าตัดและตัดไหมเย็บที่เอ็มซีคลินิก โดยการผ่าตัดนั้น มีลักษณะฉีดยาชาและผ่าสด ก่อนจะสอดใส่ซิลิโคนเข้าไป รวมถึงไม่มีการนอนพักฟื้น อีกทั้งยังใช้ยาละลายลิ่มเลือด ซึ่งผิดวิสัยการผ่าตัดทำศัลยกรรม
ต่อมา แผลผ่าตัดของผู้เสียหายเริ่มมีอาการเจ็บปวดบริเวณผ่าตัดและฟอกช้ำ มีหนองไหล และเลือดซึมตลอดเวลา จึงได้แจ้ง น.ส.หฤทัย ให้ทราบ แต่ได้อ้างว่าเป็นปกติ แต่ผู้เสียหายไม่เชื่อเนื่องจาก เมื่อมีการผ่าตัดเสริมหน้าอกให้กับผู้กล่าวหา สถานที่ดังกล่าว ก็จัดแพทย์คนอื่นที่ไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ จึงไปรับการรักษาอาการที่ รพ.ราชบุรี เนื่องจากแพทย์และสถานเสริมความงามดังกล่าวไม่แสดงความรับผิดชอบต่อความเสียหายแต่อย่าฃใด จึงรวมตัวกับผู้เสีบหายรายอื่นๆ มาร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ศปอส.ตร.) เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหากับพวกต่อไป
สำหรับผู้ต้องหา ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำร้ายนั้นได้รับอันตรายสาหัส ร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณหรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ“ และความผิดตาบ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
เวลาต่อมา นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ทนายความ ได้ผู้เสียหาย 3 ใน 10 รายที่เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปคบ. ประกอบด้วย น.ส.เอ อายุ 33 ปี น.ส.บี อายุ 27 ปี และ น.ส.ซี อายุ 35 ปี ได้นำเอาเสื้อยกทรงที่ตั้งใจซื้อมาใช้หลังผ่าตัดหน้าอก จากคลีนิคฯ ที่เป็นปัญหา ปรากฎหลังผ่านมามีปัญหานมผิดรูป หัวนมแทนที่จะอยู่ในตำแหน่งเดิมกลับเลื่อนขึ้นมาอยู่ด้านบน ทำให้ไม่สามารถสวมใส่เสื้อยกทรงเหล่านี้ได้ ตั้งใจว่าจะเอามาปาใส่หน้าหมอคนที่ผ่าตัดหน้าอกพวกตนให้เสียทรง แต่เมื่อพากันเข้าไปขอดูหน้าหมอในห้องพนักงานสอบสวนได้กันไว้ให้อยู่ห่างๆ เกรงว่าผู้เสียหายจะระงับอารมณ์ไม่อยู่จะเข้าทำร้ายหมอได้ จึงต้องกันผู้เสียหายทั้งสามคนไว้ห่างๆ
ทั้งสามคนบอกเหตุผลที่ตนตัดสินใจใช้บริการผ่าตัดเสริมหน้าอกเพราะที่คลีนิคแห่งนี้มีราคาค่าผ่าถูกกว่าที่อื่นๆ และมีการแจ้งในไลน์กลุ่มของคลีนิคโดยเอเยนซี่บอกว่าได้เปลี่ยนหมอผ่าตัดคนใหม่แล้ว ไม่ใช่คนเดิมที่ผ่าแล้วมีปัญหา เราเชื่อจึงตัดสินใจผ่าตัดหน้าอกตามคำชักชวนของเอเยนซี่ที่ถูกจับทั้งสองรายนี้
ขอบคุณที่มาจาก FB : www.facebook.com/kamon.yamutai
