หญิงชาวเวียดนามซึ่งเป็นเด็กหญิงในภาพถ่ายของสำนักข่าวเอพีที่กลายเป็นสัญลักษณ์ของสงครามเวียดนามได้ดีที่สุด เดินทางไปสหรัฐเพื่อผ่าตัดรักษาบาดแผลจากระเบิดนาปาล์มที่ถูกทิ้งลงกลางหมู่บ้านเมื่อ 43 ปีก่อน
หลายคนคงยังจำภาพเด็กหญิงตัวเล็กๆ ชาวเวียดนามที่วิ่งหนีการทิ้งระเบิดนาปาล์มของสหรัฐด้วยร่างที่เปลือยเปล่า เพราะเสื้อผ้าถูกระเบิดทำลายและรอยเผาไหม้ทั่วแผ่นหลัง เธอคือนางกิม ฟุค ขณะนี้อายุ 52 ปีแล้ว อยู่ในไมอามีเพื่อรอรับการรักษาบาดแผลเป็นจากการเผาไหม้ด้วยเลเซอร์เมื่อเดือนที่แล้ว
ขณะที่จิลล์ ไวเบล แห่งสถาบันโรคผิวหนังและเลเซอร์แห่งไมอามี กล่าวว่า แผลเป็นจากมือซ้ายถึงต้นแขน จากลำคอถึงตีนผม และทั่วแผ่นหลังที่หนาทึบจะค่อยๆ เบาบางลงจนเรียบในที่สุด เวเบลให้เธอรักษาฟรีหลังจากที่พ่อสามีของเวเบลพบเธอ และเล่าเรื่องให้ฟัง เวเบลกล่าวว่า ฟุคถูกไฟไหม้ 1 ใน 3 ของร่างกาย
ซึ่งขณะนั้นใครก็ตามที่ถูกไฟไหม้ 10% ของร่างกายล้วนไม่รอด สำหรับฟุคคงต้องเข้ารับการรักษาถึง 7 ครั้ง เป็นเวลา 8-9 เดือน การรักษาแผลเป็นนี้จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่ภายในของเธอตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันได้ ขณะที่ฟุคกล่าวว่า แผลเป็นของเธอเริ่มมีสีแดงแล้ว และยินดีที่อดทนรักษาต่อไป
ฟุคอาศัยอยู่กับสามี บุย ฮุย ตว่าน ที่นครโทรอนโต แคนาดา เธอเล่าให้ฟังว่ายังจำเหตุการณ์อันเลวร้ายนั้นได้เสมอ เธอและญาติ ๆ ต้องวิ่งหนีตายเพื่อเอาชีวิตรอดจากระเบิดที่ทิ้งลงกลางหมู่บ้านเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2515 หรือ 43 ปีที่แล้ว สะเก็ดระเบิดนาปาล์มซึ่งเป็นระเบิดที่บรรจุสารฟอสฟอรัสขาวและวัตถุไวไฟที่สามารถติดกับผิวหนังของมนุษย์ได้กระจายไปทั่วหมู่บ้านเจิ่ง บ่างชานกรุงไซ่ง่อน จนทำให้ไฟไหม้หมู่บ้านจนหมด เธอต้องถอดเสื้อที่ติดเปลวไฟออกแล้ววิ่งหนีออกจากหมู่บ้านทันที
จนกระทั่ง นิค อุต ช่างภาพเอพี ถ่ายภาพเธอเอาไว้ ต่อมาอุตได้รับรางวัลพูลิตเซอร์จากภาพนี้ และขณะนี้อุตก็ทำสารคดีเกี่ยวกับการเดินทางรักษาตัวของเธอ ส่วนฟุคปัจจุบันเป็นทูตสันถวไมตรีของสหประชาชาติ ทุก ๆ ปีจะต้องเดินทางไปทั่วโลกเพื่อกระตุ้นให้คนทั่วโลกตระหนักถึงความโหดร้ายป่าเถื่อนของสงคราม.