จากกรณี น.ส.นาฎนจิน วิศาลกิตติ และน.ส.รัฐมณฑ์ คำสระ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน หรือแอร์โฮสเตส สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่ เอสแอล 8536 แจ้งว่า นายพิชิต บุญแดง อายุ 33 ปี ชาวจ.อุตรดิตถ์ ผู้โดยสารของเที่ยวบินดังกล่าว พูดว่า “เก็บกระเป๋าดีๆ นะระวังระเบิดนะ” ขณะที่จะขอเก็บกระเป๋าสะพายเข้าช่องเก็บของบนเครื่องบิน ทำให้นักบินต้องงดการบินและตรวจสอบกระเป๋าเดินทางทั้งหมดในเครื่องบิน ผลการตรวจสอบปรากฏว่าไม่พบระเบิด เป็นเหตุให้สายการบินได้รับความเสียหาย โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมา
โดยเบื้องต้นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เเจ้งข้อกล่าวหา กระทำผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 โทษหนักถึงจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 2 แสนบาท แถมยังถูกสายการบินเตรียมฟ้องร้องแพ่งเรียกค่าเสียหายอีก แถมยังถูกผู้ว่าฯ รฟท.หน่วยงานต้นสังกัดสั่งสอบวินัยอีก อีกเด้ง
โดนหนักขนาดนี้ แอร์สาวที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวจึงได้ถูกชาวเน็ตบางส่วนตำหนิในทำนองว่า เธอทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ เพราะหนุ่มผู้โดยสารนั้นก็เเค่ “เเซวเล่น” เฉยๆ โดยทางเพจ Crewabs Cabincrew ได้เผยแพร่ข้อความซึ่งอ้างว่ามาจากทางฝั่งเเอร์สาว โดยระบุว่า
จากใจแอร์สาวบนไฟล์ทที่โดนหนุ่มรถไฟจีบด้วยมุก “ระเบิด”
กรณีหนุ่มรถไฟ แซวแอร์ไทยไลอ้อน อยากขอพื้นที่ชี้แจงให้ลูกเรือสาวในไฟลต์นั้นค่ะ
วันนี้มีข้อความทักแชทมาหา Crewabs ค่ะ จากน้องแอร์บนไฟล์ทที่หนุ่มรถไฟในข่าวอ้างว่าแซวเพื่อจีบ แอบโลกกลมว่า แอร์สาวคนนั้นเป็นลูกศิษย์พี่เองแต่ Crewabs ไม่ได้ต้องการจะพูดถึงเรื่องในข่าวค่ะ สิ่งที่จะพูด เป็นเรื่องการอธิบายให้บางท่านที่ยังไม่เข้าใจ ไม่ทราบเหตุการณ์ที่แท้จริง และด่าทอแอร์บนไฟลต์ว่าทำเกินเหตุ (บางท่านด่าทอด้วยคำไม่สุภาพ) กลายเป็นว่าน้องหนุ่มรถไฟน่าสงสารน่าเห็นใจ และแอร์ทำเกินเหตุทำให้เรื่องบานปลายวุ่นวายไปหมด(แอร์ผิดซะงั้น)
ตอนแรก Crewabs แชร์โพสต์ที่ว่าน้องแอร์ด้วยคำไม่สุภาพนี้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพราะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องที่น่ามาโพสต์ในเพจสาธารณะ (ในรูปเป็นกราฟฟิคทำใหม่นะคะ ไม่ขอเปิดเผยเฟซฯ ผู้เขียนคอมเม้นต์ละกัน) แต่หลังจากฟังความทุกข์ใจของน้องแอร์ลูกศิษย์แล้ว คิดว่าเราควรต้องใช้พื้นที่สาธารณะอธิบายอะไรสักอย่าง เพื่อไม่ให้คนทั่วไปเข้าใจน้องแอร์ และ อาชีพลูกเรืออย่างพวกเราทุกคนผิดๆ
เห็นด้วยไหมคะว่า?
จากการอ่านข่าว เราจินตนาการไปว่า น้องแอร์ช่วยยกกระเป๋าสัมภาระของหนุ่มรถไฟเก็บ แล้วชายหนุ่มก็อาจจะพูดยิ้มๆ แซวๆ ทำนองว่า เบาๆ นะ เดี๋ยวระเบิด ขำกิ๊กกั๊กทำนองล้อเล่น บังเอิญแอร์ (ที่เราคิดว่าเคร่งเกิน) ไปฟ้องกัปตัน ทุกคนทำเป็นเรื่องใหญ่โต น้องรถไฟผู้น่าสงสาร แค่ล้อเล่น แต่แอร์ทำเป็นเรื่องใหญ่แต่จากการได้คุยกับน้องแอร์แล้ว น้องระบายคำแรกเลยคือ “หนูเครียดนะพี่ หนูไปทำให้เขาและครอบครัวเขาลำบากรึเปล่า” แต่เรื่องที่เกิดจริงๆ มันไม่ใช่อย่างที่คนทั่วไป (บางท่าน) เข้าใจ
น้องเล่าว่า…..
ผู้โดยสารมากับเพื่อนๆ ค่ะ นั่งตรง emergency exit (ประตูทางออกฉุกเฉิน) แถว20 หนูก็เช็ค cabin ตรวจตราความเรียบร้อยห่อนออกบิน เจอกระเป๋าเล็ก (ที่เขาถือมาในวันที่ไปโรงพัก) ขนาดเล็กๆ ประมาณ15×15 cm ได้ เลยจะหยิบเพื่อเก็บให้ เขาก็พูดหน้านิ่งๆ เน้นว่า นิ่งๆ ไม่มียิ้มว่า “สงสัยจะมีระเบิด” หนูหันไปดุด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “พูดแบบนี้ไม่ได้นะคะ มีสิทธิ์จะโดนเชิญลงจากเครื่อง” เขาก็ยังหน้านิ่งและไม่มีท่าทีจะปฏิเสธต่อมาสิ่งที่น้องแอร์คนนี้ทำคือ เดินไปแจ้ง in charge (ภาษาง่ายๆ ประมาณตำแหน่งรองหัวหน้าลูกเรือค่ะ) และ in charge ก็เดินมาถามให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น และที่น่ากลัวคือ เขาหน้านิ่งพูดคำเดิม “มีระเบิด” ไม่มีท่าทีว่าจะจีบแอร์อะไรแบบนั้น หน้าซีเรียส เอาจริง ไม่มีใครเดาทางได้ว่าเขาพูดจริงหรือล้อเล่น เพื่อนๆเขาไม่มีใครว่าอะไร in chargeถามย้ำอยู่2รอบ ยังไม่มีการยอมรับว่าแซวเล่นหรืออะไร สีหน้าจริงจังไม่มีหัวเราะหรือยิ้มใดๆ พวกเราจึงแจ้งเพอเซอร์ (หัวหน้าลูกเรือ) และต่อไปยังกัปตัน และกัปตันจึงให้ทุกคนรีบอพยพออกจากเครื่อง
หลังจากฟังแล้ว Crewabsบอก เลยว่ามันผิดจากที่คิดไว้ เพราะตอนแรกคิดว่าหนุ่มรถไฟคงมีสีหน้ายิ้มๆ หัวเราะทำนองแกล้งแซว แต่น้องแอร์ยืนยัน ถามกี่รอบ หลายรอบก็แล้ว ไม่มียิ้ม ทำหน้านิ่ง และไม่มีการยอมรับว่า ผมล้อเล่นหรือพูดเล่น เป็นใคร ใครจะกล้าบินคะ? จนสุดท้ายเมื่อเรื่องใหญ่ทุกคนต้องออกจากเครื่องเพราะมีระเบิดตามที่อ้าง เพื่อนของเขาจึงมาถามว่า “นี่เรื่องใหญ่เหรอ”
แต่สิ่งที่น่าเจ็บใจแทนลูกเรือนักบินในไฟลต์ก็คือ มีคนไป commentว่า ”แอร์ทำเกินไป…สงสารน้องหนุ่มรถไฟ” หรือแม้กระทั่งใช้คำหยาบคายต่อว่า
Crewabs ได้แต่ให้กำลังใจน้องว่า น้องทำถูกแล้วค่ะ เพราะถ้ามันเป็นระเบิดจริง บินขึ้นไป ระเบิดตายกันยกลำ ก็จะมีคนมาด่าหนูอยู่ดีว่า “ทำไมแอร์หละหลวมไม่เคร่งเรื่องความปลอดภัย การที่น้องทำแบบนี้ไม่เพียงเพื่อความปลอดภัย มันยังรักษาชื่อเสียงของสายการบินน้องด้วย”
Crewabs เองก็กำลังจะบินกับสายการบินสิงโตแดงเร็วๆนี้ค่ะ ซื้อตั๋วแล้ว ยิ่งเจอข่าวแบบนี้ ยิ่งมั่นใจในพนักงานต้อนรับของสายนี้ แต่สิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ คือ ผู้โดยสารมากกว่าค่ะ ใครที่ต่อว่าน้องแอร์และทีม ขอให้ลองคิดใหม่ เห็นต่างได้ แต่อย่าถึงขั้นด่าว่ากันว่าพวกเราเป็นควายเลยนะคะ
“ถึงเป็นควาย ก็เซฟชีวิตผู้โดยสารทุกคนจากความชิบหายมานักต่อนักแล้วนะคะ”
เพิ่มเติม ถึงสำนักข่าวทุกท่าน ขอขอบคุณที่สนใจเนื้อหาข่าวนะคะ แต่ทางเพจและน้องแอร์ไม่สะดวกออกสื่อใดๆ ทั้งทีวีและสิ่งพิมพ์ค่ะ จุดประสงค์ของการโพสต์คืออยากให้คนที่ต่อว่าน้องแอร์เข้าใจว่า เราไม่ได้ทำเกินกว่าเหตุและแอร์ทุกคนรวมถึงนักบินมองความปลอดภัยสำคัญกว่าเงิน เวลา และค่าใช้จ่ายใดๆ เสมอ พวกเราก็ไม่อยากไปตายเช่นกันค่ะ
ดังนั้น คนที่ต่อว่าทีมลูกเรือ ขอให้ลองมองอีกมุม ความตั้งใจในการโพสเท่านี้จริงๆ แต่ด้วยมีคนแชร์ต่อเยอะมาก เลยทำให้เป็นที่สนใจ ทางเพจไม่มีอำนาจในการให้ความใดๆเชิงลึกเพิ่มเติม ให้ได้คือความเป็นจริงจากน้องแอร์ที่ได้ให้การกับตำรวจตามนี้ หากต้องการข้อมูลเพิ่ม รบกวนติดต่อทางสายการบินโดยตรงนะคะ ขอบคุณที่เข้าใจค่ะ
เพิ่มเติมรอบ2 น้องแอร์ได้อ่านและรับกำลังใจจากทุกท่านค่ะ พวกเราเองก็ตกใจที่มีคนอ่านให้ความสนใจกันเยอะ อย่างไรก็ดี ฝากขอบคุณทุกท่านสำหรับกำลังใจนะคะ หลังจากลงโพสไป มีทั้งน้องกราวด์ภาคพื้นดิน คุณพี่นักบินไฟลต์นั้น ส่งข้อความมาขอบคุณและเล่าเหตุการณ์ความโกลาหลในวันนั้น น้องกราวด์โดนผู้โดยสารโมโหใส่ ส่วนคุณนักบินแจ้งว่า ไม่อยากให้คนอื่นไปโทษลูกเรือ เพราะลูกเรือมีหน้าที่แจ้งค่ะ ผู้ที่ตัดสินใจคือนักบินค่ะ ฝากขอบคุณทุกท่านที่เข้าใจ