จีนสั่งคุมเข้ม-กวาดล้างสารเคมีอันตรายทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุระเบิดรุนแรงในเมืองท่าเทียนจิน
วันนี้(15 ส.ค.58) จีนสั่งตรวจสอบสารเคมีอันตรายและวัตถุผลิตระเบิดทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุระเบิดรุนแรงในเมืองท่าเทียนจินเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 56 ศพและบาดเจ็บ 721 คน พร้อมกันนั้นคณะรัฐมนตรีของจีนหรือสภาแห่งรัฐยังสั่งให้เจ้าหน้าที่กวาดล้างกิจกรรมที่ผิดกฎหมายให้สิ้นซาก เพื่อรับประกันความปลอดภัยของประชาชน ขณะที่บรรดาผู้ประกอบการในเมืองท่าเทียนจินถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมายความปลอดภัยอย่างชัดเจน
ขณะที่สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า สภาแห่งรัฐสั่งให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลทุกระดับเรียนรู้บทเรียนราคาแพงจากเหตุระเบิดครั้งนี้ดำเนินการอย่างจริงจังในการควบคุมดูแลด้านความปลอดภัยเกี่ยวกับสารเคมีอันตรายและวัตถุผลิตระเบิด เจ้าหน้าที่ต้องใช้มาตรการบังคับใช้กฎหมายเป็นพิเศษสำหรับสารเคมีที่มีอันตรายสูง เช่นไซยาไนด์และวัตถุติดไฟง่ายและวัตถุที่ใช้ผลิตระเบิด
โดยรัฐบาลจีนได้อ้างถึงสารไซยาไนด์หลังมีรางานในหน้าหนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี ระบุว่า มีสารโซเดียม ไซยาไนด์ถึง 700 ตัน อยู่ในโกดังจุดเกิดเหตุที่เมืองท่าเทียนจิน และอาจมีแอมโนเนียม ไนเตรทอยู่ด้วย แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันแต่เพียงว่ามีแคลเซียม คาร์ไบด์, โปแตสเซียม ไนเตรท และโซเดียม ไนเตรท อยู่ในโกดังที่เกิดเหตุระเบิด
จนถึงขณะนี้ยังคงมีไฟไหม้อยู่บางจุด หลังเกิดเหตุระเบิดซึ่งสาเหตุของระเบิดยังอยู่ระหว่งการสอบสวน ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านสารเคมีและชีวภาพมากกว่า 200 คนจากกองทัพก็ถูกส่งเข้าไปตรวจสภาพอากาศเพื่อหาก๊าซพิษในเขตอุตสาหกรรมปินไห่ นิว แอเรีย เมืองท่าเทียนจิน
ก็แถลงว่าจากการตรวจสอบตัวอย่างอากาศ 56 ตัวอย่าง ถือว่าอยู่ในระดับปกติ ตอนนี้กำลังตรวจสอบดิน และจะเปิดเผยผลการตรวจสอบในโอกาสต่อไปและเจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่าระดับของคุณภาพอากาศและน้ำในเมืองเทียนจิน ยังมีความปลอดภัย
อย่างไรก็ตามหนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี รายงานอ้างสำนักข่าวปักกิ่งที่ระบุว่า ขณะนี้ มีการตรวจพบสารโซเดียม ไซยาไนด์ ในน้ำโสโครกและยืนยันว่ามีการรั่วไหลด้วย
