“เดลี่ เมล์”รายงานว่า ผู้ต้องหาชาวเมียนมารายหนึ่ง ในคดีฆ่าปริศนาสองนักท่องเที่ยวอังกฤษ ที่เกาะเต่า ได้เปิดเผยระหว่างการพิจารณาคดี เขาได้ถูกตำรวจไทย”ทรมานทางเพศ”ระหว่างการสอบสวนพวกเขาในฐานะผู้ต้องสงสัยว่าสังหารสองนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ
รายงานระบุว่าในการพิจารณาคดีเหตุฆาตกรรมปริศนาสองนักท่องเที่ยวอังกฤษคือน.ส.ฮานนาห์ วิทเธอร์ริดจ์ และนายเดวิด มิลเล่อร์ ที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี รอบล่าสุด โดยนายไวเพียว หนึ่งในผู้ต้องหาชาวเมียนมา ให้การว่า ระหว่างการถูกสอบสวน เขาได้ถูกตำรวจไทยสั่งให้แก้ผ้าเปลือย ในห้องเย็น เป็นเวลากว่า 2 ชม.และได้ “ดีดไข่” เขา ขณะที่ตำรวจอีกนายได้เข้ามาในห้องดังกล่าว โดยเขาได้พยายามจะปกป้องตัวเอง แต่ถูกตำรวจที่ทรมานเขาได้จับแยกขาออก และยังถ่ายรูปเขาในสภาพเปลือยด้วย
นายไวเพียว ยังกล่าวต่อว่า ในขณะที่ตำรวจพยายามบังคับเขาให้สารภาพความผิดที่เขาไม่ได้ทำนั้น ตำรวจยังได้เตะเขาเข้าที่หลัง ชกหน้า และตบหน้าเขา ด้วย โดยตำรวจนอกเครื่องแบบยศอาวุโสบอกว่า”นายยังหนุ่ม แค่บอกไปว่านายทำเท่านั้น จะได้ติดคุกไม่กี่ปี แต่ถ้านายไม่ยอมสารภาพ สุดท้ายนายก็จะถูกฆ่า” และว่า ตำรวจบอกผมว่า ตำรวจสามารถช่วยผมได้ ผมจึงเซ็นเอกสารจำนวนมากไป แต่ผมไม่รู้ว่ามันคือเอกสารอะไร นอกจากนี้ ตำรวจและล่ามยังได้แนะนำวิธีพูดระหว่างขึ้นศาลว่าเขาได้สังหารสองนักท่องเที่ยวอังกฤษอย่างไรด้วย
นอกจากนี้ นายไว บอกว่า เขายังได้เจอโทรศัพท์มือถือ ที่อยู่ใกล้บ้านพักของเขาบนเกาะ ซึ่งเขาได้นำกลับบ้านแต่ไม่สามารถปลดล๊อกรหัสโทรศัพท์ได้ โดยเขาได้ข่าวการฆาตกรรมสองนักเที่ยวดังกล่าว ทำให้เขากังวลว่าโทรศัพท์ที่เขาเก็บได้ อาจเป็นของผู้เกี่ยวข้องกับการฆ่านักท่องเที่ยวทั้งสอง ทำให้เขาและเพื่อนชายเมียนมาอีกคน ได้ช่วยกันทำลายโทรศัพท์ดังกล่าว และโยนทิ้งยังพุ่มไม้ใกล้บ้านพักของเขา
อย่างไรก็ตาม อัยการไทยได้กล่าวหา โทรศัพท์ดังกล่าวเป็นของนายมิลเล่อร์ ซึ่งเชื่อมโยงว่านายไว มีส่วนร่วมสังหารสองนักท่องเที่ยวอังกฤษ ขณะที่ทนายความจำเลยบอกว่า สถานทูตอังกฤษปฎิเสธไม่ยืนยันว่า โทรศัพท์ดังกล่าวเป็นของนายมิลเล่อร์จริง และว่า คดีนี้อาจจบลงด้วยโทษประหารสำหรับบุคคลที่ถูกกล่าวหา ซึ่งอังกฤษได้คัดค้านการตั้งข้อหาใด ๆ ที่จะทำให้มีบุคคลใดเผชิญโทษประหาร
