เมื่อวันที่ 5 ม.ค. เอเอฟพีรายงานสารคดีข่าวถึงการรับศึกใหม่ของชาวปากีสถานในเมืองเปศวาร์ พื้นที่ก่อเหตุวางระเบิด ไล่ยิง และลักพาตัวของกองกำลังตาลิบัน ว่า ชาวบ้านต้องเผชิญกับฝูงหนูบ้านตัวขนาดใหญ่
แต่ละตัวมีขนาดยาวกว่า 22-30 เซนติเมตร ออกอาละวาดตอนกลางคืนไล่กินเป็ดไก่ กัดชาวบ้าน ทำให้อาหารปนเปื้อนเชื้อโรค และแม้กระทั่งกัดเด็กทารกจนถึงแก่ความตาย
นายนาเซียร์ อาหมัด อายุ 40 ปีเศษ เป็นคนหนึ่งที่สู้ศึกกับหนูในเมือง โดยมีจอบเป็นอาวุธ และมีลูกสาว 3 คนเป็นผู้ช่วย นายอาหมัดกล่าวว่า ตนและลูกๆ ออกไล่ล่าพวกหนูยักษ์ดังกล่าวตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา ฆ่าไปแล้วกว่า 1 แสนตัวแล้ว
จุดเริ่มต้นมาจากตนทนไม่ไหวหลังจากเห็นภรรยาของเพื่อนโดนกัด ต้องเสียเงินรักษากว่า 5,000 รูปี หรือราว 1,600 บาท และต้องฉีดยากันเชื้อพิษสุนัขบ้าด้วย ขณะที่หนูยักษ์ดังกล่าวอาศัยอยู่ทุกหนแห่ง ไม่ว่าตามถนนหนทาง ตลาดสด และร้านค้า
นายอาหมัด นักล่าหนู เล่าต่อว่า เมื่อก่อนจำนวนหนูในเมืองไม่มากนัก แต่หลังจากเกิดน้ำท่วมฉับพลันรอบเขตชนบท ทำให้หนูทะลักเข้ามาในเขตเมือง อาศัยอยู่ตามท่อระบายน้ำเปิดที่น้ำไหลเข้าเมือง จึงโผล่ออกมาหาอาหารในยามค่ำคืน
ดังนั้นเวลาออกล่าหนูของตนจึงอยู่ในช่วงค่ำ ใช้เศษขนมปังโรยน้ำตาลและผสมสารเคมี จนเมื่อมันมีภูมิต้านทานสารเคมี ตนก็ต้องปรุงสูตรใหม่ขึ้นมาเอง
ขณะที่นายกัล ซาดา กล่าวว่า หนูมักจู่โจมพร้อมกันเป็นฝูงทุกคืนเวลาราว 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หลานของตนที่อายุเพียงขวบครึ่ง ถูกกัดและไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
นายฟาคีร์ กุล ปู่ของนายซาดา กล่าวเสริมว่า ทุกบ้านมีกรงดักหนู แต่ไม่ได้ผล ต้องพึ่งพาการล่าหนูของนายอาหมัด ซึ่งจะวางขนมปังไว้ตามหน้าร้าน
รวมถึงสถานที่อื่นๆ ที่หนูมักแอบเข้าไป กระทั่งตอนเช้าจะไปเก็บซากหนูตามที่ต่างๆ ได้เป็นกองพะเนิน ก่อนจะใส่ถุงและนำไปฝังในทุ่ง แม้จะเป็นผลงานดีเด่น แม้นายอาหมัดไม่ได้ค่าจ้างหรือความช่วยเหลือใดๆ จากทางการ แต่นายอาหมัดยังปฏิบัติภารกิจนี้ต่อไป
ที่มา ข่าวสด