สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ (18 เม.ย. 58) ที่ผ่านมา ตำรวจเกาหลีใต้ได้ปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงหลายพันคน ที่พยายามบุกไปยังทำเนียบประธานาธิบดี ในกรุงโซล เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการกับเหตุเรือเซวอลล่มดีกว่านี้ โดยเหตุโศกนาฏกรรมเรือล่มที่เกิดขึ้นนอกชายฝั่งเกาะเชจู เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 300 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียน ที่อยู่ระหว่างการทัศนศึกษา
ทางการเกาหลีใต้ ในกรุงโซล ระบุว่า ได้ระดมกำลังตำรวจประมาณ 13,000 นาย และรถบัสตำรวจอีก 470 คัน ไปประจำการรอบถนนสายหลัก และจับกุมผู้ประท้วงเอาไว้ 100 คน ตำรวจเผยว่า พวกเขาได้ใช้รถบัสแทนกำแพง เพื่อกันไม่ให้ผู้ประท้วงเดินขบวนไปยังทำเนียบประธานาธิบดี รวมถึงใช้สายฉีดน้ำและสเปรย์พริกไทยกับผู้ประท้วง ขณะที่ มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่าสิบคน เป็นผู้ประท้วง 12 คน ตำรวจ 3 คน โดยผู้ประท้วง 9 คนและตำรวจ 3 คน ถูกส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ประท้วงอีก 3 คน ได้รับการปฐมพยาบาล ในจุดปะทะ นอกจากนั้น ยังมีรถตำรวจได้รับความเสียหายหลายคัน
สำหรับการประท้วงที่จัดขึ้นโดยครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิตนี้ นับเป็นครั้งใหญ่ที่สุด ในรอบหลายสัปดาห์ โดยฝูงชนเรียกร้องให้รัฐบาลอนุญาตให้มีการไต่สวนคดีเรือเซวอลล่มอย่างเป็นอิสระและกู้ซากเรือเซวอลขึ้นทันที ครอบครัวของเหยื่อผู้เสียชีวิต ระบุว่า รัฐบาลทำให้พวกเขาผิดหวังอีกครั้ง เพราะไม่ได้ประกาศแผนกู้ซากเรือขึ้นมา ในพิธีรำลึกครบรอบหนึ่งปีเหตุเรือเซวอลล่ม เมื่อวันที่ 16 เม.ย. โดยประธานาธิบดี ปาร์ค กึนเฮ ประกาศว่า รัฐบาลจะเตรียมการกู้ซากเรือ แต่ไม่ได้พูดถึงรายละเอียดชัดเจน