นักกฎหมายจีนกระตุ้นทางการทบทวน กฎหมายอาญาฯ ของประเทศ หลังจากเกิดเหตุ “ชายข่มขืนชาย” ในฉงชิ่ง แต่ไร้ข้อกฎหมายชี้ความผิดและลงโทษคนร้าย
ฉงชิ่ง อีฟนิ่ง นิวส์ รายงาน (25 ก.ย.) ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นจำต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาชายชาวจีน ที่ก่อเหตุลักพาตัวและข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อซึ่งเป็นผู้ชาย โดยไม่มีการตั้งข้อหาหรือดำเนินคดีความใดๆ เนื่องจากไร้ตัวบทกฎหมายที่จะเอาผิดผู้ก่อเหตุฯ รายนี้ได้
เหตุการณ์ ล่วงละเมิดทางเพศระหว่าง “ชาย-ชาย” ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อสองสัปดาห์ก่อน เหยื่อเคราะห์ร้ายที่กำลังเดินเล่น ถูกคนร้ายฉุดลากเข้าไปในบ้านร้างเขตเหอชวน มหานครฉงชิ่ง โดยเหยื่อพยายามร้องขอให้ปล่อยตัวแลกกับเงินสดที่มี แต่ก็ถูกปฏิเสธก่อนคนร้ายลงมือข่มขืนใจ
หลัง จากเหยื่อได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระ เขารุดแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งสามารถตามจับและคุมขังผู้ก่อเหตุได้ในช่วงสั้นๆ ก่อนต้องปล่อยตัวโดยทำได้เพียงกล่าวตำหนิติเตียน อนึ่ง ตามกฎระเบียบการลงโทษของเจ้าหน้าที่พิทักษ์สันติราษฎร์จีน อนุญาตให้กักขังผู้ต้องหาได้สูงสุด 15 วัน
ด้วยเหตุนี้ ผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายพากันวิจารณ์ว่า กรณีข้างต้นเผยให้เห็นช่องโหว่ของกฎหมายจีน ซึ่งประมวลกฎหมายอาญาแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ระบุไว้ว่า “อาชญากรรม ทางเพศเป็นการใช้กำลัง บีบบังคับ หรือวิธีอื่นๆ เพื่อมีเพศสัมพันธ์กับสตรีหรือเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 14 ปี” โดยมีบทลงโทษจำคุก 3-10 ปี ตามอายุของเหยื่อและระดับการใช้ความรุนแรง
กลุ่ม นักกฎหมายสำทับว่า กฎหมายอาญาจีนก่อนปี 2522 มีการบัญญัติโทษกรณีข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศผู้ชาย จนกระทั่งปี 2540 ระหว่างการปฏิรูปกฎหมายครั้งใหญ่ สภานิติบัญญัติกลับขจัดข้อกฎหมายดังกล่าวออกไป
อย่าง ไรก็ดี กรณีผู้ชายถูกล่วงละเมิดทางเพศในจีนเกิดขึ้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่สถิติข้อมูลนั้นถูกสงวนปกปิดไว้ ตรงข้ามกับความรุนแรงทางเพศในเหยื่อผู้หญิงที่ได้รับการเปิดเผยผ่านสื่อราย วัน เนื่องจากข้อห้ามทางสังคมจีนที่ไม่ต้องการพูดถึงความสัมพันธ์ของคนรักร่วม เพศ
ตัวอย่างเช่นเดือน พ.ค. 2553 เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยชายวัย 42 ปี ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงปักกิ่ง ก่อเหตุข่มขืนนักศึกษาชายวัย 18 ปี โดยเขาถูกตัดสินโทษจำคุกหนึ่งปี ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนาแทนข้อหาล่วงละเมิดทางเพศ
