ซาวโดวจ์ ขนมปังยีสต์ธรรมชาติเพื่อสุขภาพ ประวัติยาวนานหลายพันปี โดดเด่นด้วยเปลือกกรอบๆ ด้านในมีเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่ม เมื่อกัดจะได้กลิ่นและรสเปรี้ยวนิดๆ ในแบบยีสต์ธรรมชาติ นี่คือสิ่งที่ทำให้หลายคนตกหลุมรัก Sourdough (ซาวโดวจ์) ขนมปังที่ใช้แค่แป้ง น้ำ และเกลือเป็นส่วนประกอบเท่านั้น เป็นขนมปังที่กินแบบดั้งเดิมก็อร่อย หรือครีเอทเป็นเมนูใหม่ก็ดี! สายเฮลตี้ต้องไม่พลาด สไลด์แล้วแช่แข็งเก็บไว้ได้เป็นเดือน เอาออกมาวางทิ้งไว้ซัก 10-15 นาที หรือละลายน้ำแข็งด้วยไมโครเวฟ ก็กลับมานุ่มอร่อนเหมือนเพิ่งออกจากเตาเลย
การทำขนมปังแบบดั้งเดิมอย่าง “ซาวโดวจ์” (Sourdough) มีขั้นตอนการทำแบบโบราณ โดยต้องใช้เวลาหลายวัน อาศัยความทุ่มเท และการเอาใจใส่ การเลี้ยงยีสต์ธรรมชาติให้แข็งแรงเพื่อนำไปผสมทำเป็นซาวโดวจ์ได้
ขนมปังซาวโดวจ์ อยู่ในหมวดของขนมปังทางเลือก ที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคสายวีแกน หรือผู้ที่ต้องการขนมปังเพื่อสุขภาพ แต่เมื่อถึงช่วงที่ผู้คนอยู่บ้านกันมากขึ้น ซาวโดวจ์จึงกลายเป็นงานอดิเรก ที่ช่วยเบี่ยงเบนความเครียดไปจากเรื่องสังคมได้เป็นอย่างดี
ขนมปัง เป็นอาหารหลักในหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากเป็นแหล่งคุณประโยชน์สําคัญต่อร่างกาย ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แร่ธาตุ และวิตามิน ซึ่งโดยทั่วไป ขนมปังมักจะผลิตโดยการใช้แป้งสาลีผสมกับน้ํา ในอัตราส่วนที่เหมาะสม และนวดจนกลายเป็นแป้งโด (dough) ภายในโด เกิดการสร้างตัวของโปรตีนกลูเตน (gluten) ทําให้ขนมปังที่ได้มีลักษณะขึ้นฟู ให้เนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่ม และยืดหยุ่น
ตามปกติ ยีสต์ที่ใช้ทำขนมปังส่วนใหญ่ เป็นสายพันธุ์ที่ผ่านคัดเลือกและตรวจสอบคุณภาพแล้ว แต่การทำขนมปังซาวโดวจ์ จะใช้หัวเชื้อที่เป็นยีสต์ธรรมชาติ โดยผสมแป้งและน้ำเข้าด้วยกัน นำมาบ่มประมาณหนึ่งสัปดาห์ หรือมากกว่านั้น โดยมีการตักแป้งบางส่วนที่ยีสต์ใช้แล้วออก แล้วเติมแป้งเพิ่มเข้าไปใหม่เป็นระยะ เพื่อเป็นอาหารยีสต์ที่เพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้ชนิดของยีสต์ในหัวเชื้อ อาจมีมากกว่าหนึ่งชนิด และมีสายพันธุ์ที่แตกต่างจากที่ขายทั่วไป
ในขนมปังซาวโดวจ์ มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยต้านการอักเสบ ยับยั้งเซลล์มะเร็งได้ มีสารพรีไบโอติกส์ (Prebiotics) ที่เป็นอาหารให้กับจุลินทรีย์ทในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ระบบการย่อยอาหาร และการขับถ่ายดีมากยิ่งขึ้น ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด คนที่เป็นเบาหวานสามารถทานขนมปังชนิดนี้ได้ เพราะเป็นขนมปังที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำ