หากพูดถึงหนุ่ม ซี ศิวัฒน์ เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึงภาพของเจ้าตัวที่เป็นพระเอกให้กับช่อง 7 เพราะอยู่กับช่องนี้มานานถึง 10 ปีแล้ว แต่หนุ่มซี เพิ่งโบกมือลากลายเป็นนักแสดงอิสระไปแล้ว ท่ามกลางกระแสดราม่าว่าเนรคุณ ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจถึงประเด็นนี้ในรายการ คุยแซ่บShow ทางช่อง One31 ที่มี หนิง ปณิตา และ เป็กกี้ ศรีธัญญา เป็นพิธีกร

 

 

ความรักตอนนี้เป็นยังไง ?
ซี : ดีครับ เราก็รักกันดี จนถึงวันนี้ก็ 13 ปี

ทำไมถึงคบกันได้ยาวนาน ?
ซี : ผมว่าผมไม่ได้แตกต่างจากคู่รักทั่ว ๆ ไป อีกอย่างผมไม่ได้ดีอะไรมากมาย ก็เป็นผู้ชายธรรมดาที่ก็มีทำเรื่องทั้งดีและไม่ดี แต่สิ่งสำคัญของการใช้ชีวิตคู่ผมไม่อยากใช้คำว่าเข้าใจ เพราะมันดูกว้าง ขอใช้ว่าตราบใดที่คุณอภัยให้กันได้ ก็จะอยู่ด้วยกันได้ยาวนาน

13 ปีที่คบกันมามีจุดที่ทะเลาะกันจนไม่อยากไปต่อมั้ย ?
ซี : เป็นเรื่องปกติ ผมโชคดีที่เราสองคนเริ่มจากการที่เราเป็นเพื่อนกัน ทุกสิ่งทุกอย่างเราต่างกันสุดขั้วเลย นั่นเป็นสิ่งที่เราเติมเต็มซึ่งกันและกัน เราลดความคาดหวังลง ถ้าเราต้องการเปลี่ยนใคร เชื่อว่าต้องเลิกกันชัวร์ ช่วงแรก ๆ เราอาจะเต็มไปด้วยความคาดหวัง สุดท้ายวันนี้คุณต้องมาตั้งคำถามว่าวันนี้คุณพร้อมที่จะใช้ชีวิตกับใครสักคนหรือยัง หรือต้องการตามหาไปเรื่อย ๆ แล้วเราใช่คนที่ใช่สำหรับเค้าหรือยัง จริง ๆ เค้าก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่ชอบในตัวเค้า

 

ซี ศิวัฒน์

 

กล้าพูดหรือเปล่าว่ามีอะไรบ้าง ?
ซี : จริง ๆ มันไม่ได้เป็นเรื่องที่พูดกันไม่ได้นะ เช่น เรื่องการกิน การเที่ยว ความชอบ การแต่งตัว สถานที่ท่องเที่ยว ไลฟ์สไตล์เราต่างกันสุดขั้วเลย เราชอบกินอะไรซ้ำ เค้าชอบกินบรรยากาศ แรก ๆ เราก็ไม่เข้าใจ พอสุดท้ายเราลดความคาดหวังลงก็โอเค ไม่ต้องไปคิดว่าผู้หญิงเยอะ อยู่ที่อยากจะเรียนรู้เค้าหรือเปล่า

ชีวิตก่อนแต่งงานกับหลังแต่งงานแตกต่างกันยังไง ?
ซี : ผมว่ามันสมบูรณ์แบบที่สุดเลยนะ ผมเหมือนผู้ชายทั่วไปที่กลัวการใช้ชีวิตอยู่กับใคร เพราะผมอคติไปก่อน มันเหมือนชีวิตคน ๆ นึงหลังจากไม่มีพ่อ-แม่ มันเหมือนภาพวาดที่มันเต็มไปด้วยภาพสเก็ตช์พอหลังจากได้ใช้ชีวิตคู่มันจะไม่ได้มีแค่คำว่าผมหรือคุณ มันจะมีแต่คำว่าเรา มันกลายเป็นว่าภาพนี้ถูกเติมเต็มไปด้วยสีแล้ว ดูเหมือนโอเว่อร์ แต่วันนี้ถ้าเรามีคนที่เรารักไม่ว่าสถานะไหน ถ้าคุณรู้ว่าคุณใช้ลมหายใจเพื่อเค้าเหล่านั้น ความท้อ ความเหนื่อย มันจะไม่หลงเหลืออยู่เลย ชีวิตผมจะไม่ประสบความสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว ถ้าไม่มีครอบครัว ความรัก คุณเอมี่

ต่างฝ่ายต่างขี้หึงมั้ย ?
ซี : ผมไม่ค่อยขี้หึง เมื่อก่อนคุณเอมี่อาจจะขี้หึง อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อก่อนผมกะล่อน ผมไม่ได้บอกว่าผมเจ้าชู้ ผมแค่ชอบมองผู้หญิงสวย

 

 

เคยเถลไถลมากที่สุดแค่ไหนในการใช้ชีวิตคู่ ?
ซี : เหมือนกับชีวิตคู่ทั่วไปที่ทำให้คนที่เรารักเสียใจ ก็มีแอบพาสาวไปทานข้าว แอบคุยโทรศัพท์ แอบส่งไลน์ ผลสุดท้ายแล้วก็ต้องกลับมาดูว่าสิ่งที่เราทำแค่การตื่นเต้นไม่กี่นาที สุดท้ายแล้วคนที่เสียใจคือคนที่เรารักที่สุดในโลกหรือเปล่า เราสองคนเคยมีปัญหาถึงขึ้นจะเลิกรากันเลยนะ ผมกลับมาคิดว่าถ้าวันนี้ไม่มีผู้หญิงคนนี้อยู่ในโลกนี้เราอยู่ได้มั้ย ถ้าคำตอบอยู่ได้คือเลิกเลย แต่ถ้าคำตอบบอกว่าอยู่ไม่ได้ ไม่ต้องมานั่งใช้เหตุผล ทุกอย่างก็จบเลย

เค้าบอกว่าเรากลัวเมีย จริงมั้ย ?
ซี : การที่เค้าจะแพ้คนทั้งโลกใบนี้ แล้วเค้ากลับมาชนะคนที่บ้านทำไมจะไม่ได้ ถ้ามันจะทำให้เค้ามีความสุข เราจะทำไม่ได้เหรอ

ทำไมถึงยังไม่มีลูก ?
ซี : สุดท้ายแล้วการที่เราจะเป็นพ่อ เป็นแม่เราต้องเป็นความพร้อมทางด้านจิตใจ อย่างตัวเค้าเองก็มีเหตุผลของเค้า ผมไม่ได้ตั้งแง่ว่าชีวิตครอบครัวผมจะสมบูรณ์ต้องมีลูก ตอนนี้ยังคุมอยู่ วันนี้เราก็มีหลาน คุณเอมี่ก็มีหลาน เรามีความสุขกับตรงนี้ดี

 

 

ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระแล้ว ?
ซี : ใช่ครับ อยู่ที่เดิมมามากกว่า 14 ปี

อะไรที่ตัดสินใจใช้ชีวิตเป็นนักแสดงอิสระ ?
ซี : ความอยากครับ ง่าย ๆ สั้น ๆ เลย อยากที่จะออกมาหาแพสชั่นตัวเอง มันถึงจุดที่ทำอะไรซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ มันจะเริ่มรู้สึกชินชา วันหนึ่งผมอยู่กองถ่ายมันเคยเกิดขึ้นกับผมว่าผมมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ เราก็ตั้งคำถามว่า วันนี้เรายังสามารถกอดความเป็นพระเอกได้นะ เราอยากไปร่วมงานกับคนที่เค้าเก่ง เราอยากมีความพัฒนา เรามีสองทางเลือกคือกอดความเป็นพระเอกไว้แล้วก็อยู่ที่เดิมไป แล้วก็รอให้ตัวเองแก่ หรือวันนี้เราไม่ได้คิดถึงความดังหรือเรื่องเงินทอง เราคิดว่าเราอยากทำบางสิ่งบางอย่างกับใครสักคนหรือเปล่า

ที่ออกมาเป็นเพราะสังกัดเดิมไม่ป้อนงานละครหรือเปล่า ?
ซี : ไม่จริงเลย ผมพูดได้เลยว่าทุกวันนี้มี ซี ศิวัฒน์ ได้ทุกวันนี้ก็เพราะช่อง 7 เลย ไม่มีที่ไหนแทนบ้านหลังนั้นได้แน่นอน สุดท้ายแล้วงานศิลปะมันต้องทำด้วยความอยากจริง ๆ ผมเป็นคนทำงานด้วยความอยากจริง ๆ ช่องก็ให้งานมาโดยตลอด ช่องไม่เคยไม่สนับสนุน ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดจากการที่ผมตัดสินใจเอง ไม่ได้เกี่ยวว่าช่องให้งานน้อยหรือไม่รักเรา ถ้ามองย้อนไปผมเลือกการรับงานชัดเจนมาก ผมมองว่าการรับละครไม่ใช่แค่เล่นละครแต่มันคือประวัติศาสตร์ ผมจะเล่นเฉพาะเรื่องที่อยากเล่นเท่านั้น พอผมได้สร้างงานศิลปะด้วยความตั้งใจแล้วพอผ่านไปสัก 5-10 ปี ถ้าละครเรื่องนั้นมันกลับมาสร้างใหม่จะถูกพูดถึงว่าเรื่องนี้ใครเล่น แล้วมันก็จะมีหน้าเรา แล้วก็จะถูกพูดถึงว่าคนเก่าเค้าเล่นไว้ดีมาก เหมือนอย่างที่เราชื่นชอบละครหลาย ๆ เรื่องที่ถูกสร้างไว้ในประวัติศาสตร์

 

 

ออกมาอย่างงี้เนรคุณหรือเปล่า ?
ซี : ถ้าก่อนหน้านั้นผมได้ตังค์จากช่องโดยที่ผมไม่ต้องทำงานเลย แปลว่าเค้าเลี้ยงดูผม อันนั้นมาว่าผมว่าเนรคุณได้ แต่สำหรับผม ผมมองว่ามันเกิดจากกการทำธุรกิจร่วมกัน ผมไม่ได้รับเงินมาฟรี ผมทำงานและเราก็สร้างรายได้ร่วมกัน หากผมทำผลงานออกมาไม่ดีแล้วใครจะซื้อโฆษณาจากช่อง สุดท้ายแล้วถ้าเราไม่เซ็นสัญญาต่อแล้วคนมองว่าเนรคุณ ผมก็น้อมรับและไม่คิดตอบโต้ จริง ๆ แล้วสิ่งเหล่านี้มันเป็นปัญหาของคนที่คิดเอง ไม่ได้เกี่ยวกับผม ผมรู้ดีว่าผมทำอะไรอยู่ แล้วช่องก็ทราบดีว่าการที่ผมไม่ต่อสัญญาไม่ได้เกิดจากความรู้สึกที่แย่

ติดตามรายการ คุยแซ่บShow ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ 14.00-15.00 น. ทางช่อง one31 Facebook Page : คุยแซ่บShow รับชมย้อนหลังได้ที่ Youtube Channel : Orange Mama

 

 

ซี ศิวัฒน์

เรื่องน่าสนใจ