“อาเบะ” ประกาศญี่ปุ่นมีภารกิจสร้างโลกที่ปราศจากนิวเคลียร์งานครบรอบ 70 ปี ทิ้งระเบิดฮิโรชิมา
วันนี้(6ส.ค.58)จากรายงานของเอเอฟพี ประชาชนนับแสนรวมตัวกันที่เมืองฮิโรชิมา เพื่อรำลึกเหตุการณ์ครบรอบ 70 ปี ที่เมืองแห่งนี้ถูกทำลายด้วยระเบิดปรมณู ซึ่งหลายฝ่ายอ้างว่า การกระทำดังกล่าวนำไปสู่การสิ้นสุดสงครามโลกครั้งสอง ซึ่งยังคงมีข้อถกเถียงถึงทุกวันนี้ว่าข้ออ้างดังกล่าวเหมาะสม เมื่อเทียบกับผลร้ายที่เกิดขึ้นหรือไม่
แรงระเบิดจากการโจมตีด้วยอาวุธชนิดใหม่เมื่อ 70 ปีก่อน สร้างความพินาศให้เมืองทางตะวันตกของญี่ปุ่น คร่าชีวิตผู้คนนับหมื่นอย่างฉับพลัน ขณะที่ทำให้ผู้รอดชีวิตรายอื่นๆต้องทนทุกข์ทรมาณรอความตายอย่างช้าๆ
ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้รอดชีวิต รวมถึงตัวแทนจากประเทศต่างๆนับร้อยประเทศได้เดินทางมาร่วมพิธี โดยหลายคนได้นำดอกไม้มาประดับยังอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงผู้ตาย ณ อุทยานรำลึกสันติภาพ กลางเมืองฮิโรชิมา
ผู้ที่เข้าร่วมงานยังรวมถึง นายชินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น, นางแคโรไลน์ เคนเนดี ทูตสหรัฐฯ รวมถึงนางโรส กัตต์โมลเลอร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศด้านการควบคุมการแพร่กระจายอาวุธและความมั่นคงระหว่างประเทศ ของสหรัฐฯ ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดที่สหรัฐฯเคยส่งมาเข้าร่วมพิธี
“ในฐานะประเทศเดียวในโลกที่เคยถูกโจมตีด้วยระเบิดปรมณู… เรามีภารกิจที่จะต้องสร้างโลกที่ปราศจากอาวุธนิวเคลียร์” นายอาเบะ กล่าวกับผู้เข้าร่วมพิธี
“พวกเราต่างได้รับหน้าที่ที่จะต้องถ่ายทอดเรื่องราวอันแสนอำมหิตของอาวุธนิวเคลียร์จากรุ่นสู่รุ่นรวมถึงประเทศต่างๆ”
นายอาเบะยังกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะยื่นมติเสนอให้กำจัดอาวุธนิวเคลียร์แก่ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติภายในปีนี้อีกด้วย
นอกจากนี้การจัดงานรำลึกครั้งนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนการเริ่มต้นเดินเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะอีกครั้งหลังประสบกับปัญหานิวเคลียร์หลอมละลาย จากเหตุสึนามิถล่มเมื่อปี 2011 ขณะที่ประชาชนจำนวนมากได้ออกมาต่อต้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์ หลังอุบัติเหตุดังกล่าวซึ่งถือเป็นหายนะจากนิวเคลียร์ที่รุนแรงที่สุดนับแต่เหตุการณ์ที่เชอร์โนบิลในปี 1986