กลายเป็นกระแสวิจารณ์อย่างหนักบนโลกออนไลน์ ถึงประเด็นจรรยาบรรณในวิชาชีพของเจ้าหน้าที่การเงินโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ที่ค้นข้อมูลของคนไข้ที่ตัวเองรู้จักพร้อมนำมาเปิดเผย จากที่หวังดีต่อเพื่อน เลยกลายเป็นโดนจวกยับถึงจริยธรรมทันที สืบเนื่องจากกระทู้บนเว็บไซต์พันทิป “เทรนเนอร์ที่ฟิตเนส ที่เป็นครูสอนเรากับเพื่อนๆ มีเชื้อ HIV ดิฉันควรบอกเพื่อนดีไหม” เพื่อเล่าประสบการณ์ว่า
ตนเองและเพื่อนๆ ชอบเข้ายิมกัน แต่มีเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่สนิทสนมกับตัวเทรนเนอร์เป็นพิเศษ แต่มาวันหนึ่งเทรนเนอร์คนดังกล่าวได้มาโรงพยาบาลที่เจ้าตัวทำงานอยู่ในแผนกการเงิน แต่จากการสอบถามเทรนเนอร์คนดังกล่าวดูหลบๆ จึงทำให้เจ้าเกิดความอยากรู้ และลองค้นประวัติการรักษาของเทรนเนอร์คนดังกล่าว จนเจอว่าคนไข้มีเชื่อ HIV และเอามาตั้งประทู้ถามว่าควรจะบอกเพื่อนหรือไม่ ด้วยข้อความดังนี้
คือ เรากับเพื่อนๆในกลุ่ม เข้ายิมกัน แต่เราไปบ้าง ไม่ไปบ้าง แต่เพื่อนของเราไปทุกวันเลยค่ะ สนิทกับเทรนเนอร์มาก และมีนัดกันไปทานข้าวด้วย มีการเม้นทักในไอจี ในเฟสบุ๊ก กันบ่อยๆ ด้วยค่ะ ซึ่งดิฉันก็เฉยๆ แต่รู้สึกชอบหุ่นน้องเทรนเนอร์มาก เพราะหุ่นดี สุขภาพดี ในคำแนะนำในการออกกำลัง และทั้งเรื่องโภชนาการได้เป็นอย่างดี
เราทำงานอยู่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แล้ววันหนึ่ง เจอน้องเทรนเนอร์คนนี้แหละมาโรงพยาบาล ก็เข้าไปทัก ดูน้องเขาหลบๆ เราถามว่าเป็นอะไรเหรอ มีอะไรให้เราช่วยไหม (เราทำแผนกการเงินผู้ป่วยใน IPD) เขาบอกว่าแค่มาส่งเพื่อน เพื่อนเป็นไข้ เดี๋ยวก็จะกลับแล้ว เราก็จับแขนจับกล้ามลวนลามน้องเค้า ตามปกติด้วยความสนิทกัน แล้วก็แซว มานั่งเล่นห้องพี่ก็ได้นะ ห้องพี่มีขนมกับน้ำผลไม้ น้องตอบว่าผมทานมาแล้ว ขอตัวไปหาเพื่อน ก็แยกย้าย
ด้วยความเผือกระดับรุนแรง จึงเข้าไปในระบบลงทะเบียนของโรงพยาบาลค่ะ ปรากฎว่าน้องเขา มาตรวจรักษาจริงๆ ก็เลยแอบดูประวัติการรักษา เอารหัส HN ไปค้นในหน้าผู้ป่วย OPDช๊อกค่ะ มารับ ยาต้านไวรัส B24 ไม่คิดเลยว่าโรคนี้ จะใกล้ตัวขนาดนั้น ความสัมพันธ์กับเพื่อนเราไม่รู้ไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว เราไม่ได้รังเกียจคนเป็นโรคนี้นะคะ แต่ไม่รู้จะบอกเพื่อนยังไง ว่าอย่าให้ความสัมพันธ์เกินเลยไปกว่านี้
หลังกระทู้ถูกแชร์ออกไป หญิงสาวคนดังกล่าวถูกโจมตีและวิจารณ์จากสังคมโซเชียลอย่างหนัก ทั้งประเด็นจรรยาบรรณในวิชาชีพ ที่แอบดูข้อมูล ประวัติคนไข้ อีกทั้งยังเอามาเผยแพร่ในที่สาธารณะ รวมถึงเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลที่อาจถูกฟ้องร้องได้ ขณะที่หลายความเห็นกล่าวว่า ถึงแม้จะเป็นห่วงเพื่อน แต่ก็ไม่ควรที่จะนำเรื่องราวมาเผยแพร่ ซึ่งประเด็นเชื้อ HIV นั้นค่อนข้างละเอียดอ่อน
นอกจากนี้ มีการตั้งข้อสังเกตไปถึงทัศนคติ มุมมองที่ผู้คนยังคิดภาพตัดสินว่าคนที่มีเชื้อ HIV เป็นกลุ่มคนที่อันตราย น่ากลัว ทั้งที่คนเหล่านี้หากรักษาตัวดีๆ หมั่นดูแลสุขภาพตัวเอง ก็สามารถใช้ชีวิตร่วมกับคนทั่วไปในสังคมได้ตามปกติ เพียงแค่คนรอบข้างเปิดรับ และทำความเข้าใจว่าเชื้อไม่ได้ติดต่อกันง่ายขนาดนั้น
ด้านแฟนเพจ Drama-addictได้พูดถึงประเด็นดราม่าดังกล่าว พร้อมโยงไปถึงซีรี่ส์ดังอย่าง ฮอร์โมน ที่เคยนำเสนอเรื่องของผู้ที่มีเชื้อ HIV ผ่านตัวละครวัยรุ่นพละเอาไว้ดังนี้