เรียกว่าเจอพิษข่าวฉาวจากเพจข่าวปลอมที่กุข่าวใส่ร้ายดาราอีกราย สำหรับดีเจบุ๊คโกะ ธนัชพันธ์ ที่ล่าสุดเจาตัวเพิ่งโดนข่าวลือว่าขับรถประสบอุบัติเหตุ จนมีผู้เสียชีวิต โดยสาเหตุมาจาก ตุ๊กตาลูกเทพ ที่เลี้ยงไว้ หล่นลงไปคาที่เหยียบเบรครถจนเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต จนเกิดเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงในโลกออนไลน์
ล่าสุด (28 มกราคม 2559) ดีเจบุ๊คโกะ ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง โดยต้นเรื่องมาจากเพจเฟซบุ๊กปลอม หลังตนได้เห็นข่าวก็รู้สึกขำ ๆ เชื่อว่าคนเขียนข่าวคงว่าง แต่ยอมรับว่าข่าวดังกล่าวก็ทำให้ตนเดือดร้อนเช่นกันเพราะคุณแม่ก็ตกใจกับข่าวดังกล่าว เพราะเพื่อนเขาส่งข่าวให้ดูเยอะมาก รวมถึงเจ้านายตนด้วย เรื่องงานอีเว้นท์ก็วุ่นวายไปหมด คนรอบข้างเขาไม่รู้ว่าเป็นข่าวจริงหรือไม่เพราะเห็นข่าวก็แชร์ และส่งต่อข่าวกันเยอะมาก ตนก็ต้องมาคอยอธิบาย และเมื่อเช้าตนถ่ายรายการด้วย เราออกมาทำงานแต่เช้า ทำให้คนในบ้านไม่เห็นเรา จึงตกใจกันหมด ก็มีคนแนะนำว่าว่าเพจข่าวแบบนี้ทำให้ตนเสียหาย เสียงานที่ติดต่อเข้ามา แต่ตนโชคดีที่ลูกค้าเข้าใจ พอโทรกลับมาเช็ก ตนก็บอกว่าไม่เป็นอะไร สบายใจได้ เขาเป็นห่วงเรามากกว่า และตกใจกับข่าว แถมน่ารักให้กำลังใจด้วย ส่วนตัวแล้วตลกมากกว่า ก็ปล่อยไป เดี๋ยวเหนื่อยก็คงหยุดเขียนข่าวปลอมกันเอง
โดย ดีเจบุ๊คโกะ ยังได้พูดถึงประเด็นการเลี้ยงลูกเทพว่า เป็นความเชื่อส่วนบุคคลอย่างที่ตนเคยพูดไปแล้ว ไลฟ์สไตล์คือพาไปไหนมาไหนปกติ แต่ยังไม่เคยใช้บริการซื้อตั๋วเครื่องบินให้นั่ง ไม่เคยต้องเซ็ทที่นั่งทานอาหารให้เขา หรือต้องไปรับบริการนู่นนี่นั่น ที่จริงก็มีงานติดต่อมาให้เราลงคู่กับตุ๊กตาลูกเทพเยอะมาก ค่าตอบแทนเป็นหลักแสนด้วยซ้ำ แต่ตนก็ปฏิเสธหมด ไม่ได้รับเพราะไม่อยากฉวยโอกาส ตัดปัญหาดีกว่า และเราเองก็ถูกโยงไปหลายประเด็นอคนเข้าใจอยู่แล้วว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่เมื่อคนโยงไปประเด็นไปแบบนี้ก็ไม่สบายใจเหมือนกัน
ส่วนเรื่องตนทำงานแล้วประสบความสำเร็จเพราะตุ๊กตาลูกเทพนั้น เราก็ทำงานปกติทุกวันอยู่แล้ว มีละคร 3-4 เรื่อง ภาพยนตร์ 2 เรื่อง รายการพิธีกรอีก 4 รายการ และงานวิทยุด้วย คงไม่มีเวลาอุ้มลูกเทพไปทำนู่นนี่ คนที่รู้จักตนจะรู้ไลฟ์สไตล์ตนอยู่แล้วว่าทำงานปกติ แค่ตนพาเขาไปไหนมาไหนด้วยพอมันเป็นข่าว ตนก็ต้องมีวิธีตั้งรับคือเราเองเป็นคนของสื่อ เป็นคนที่คนรู้จักและจับจ้องเยอะ มันก็ไม่แปลกที่คนจะมามุ่งประเด็นมาที่ตน แต่สิ่งที่ตนอยากบอกคือความคิดเห็นต่าง ๆ สามารถแสดงความคิดเห็นกันได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตไม่ล้ำเส้นกันมา ใครแสดงความคิดเห็นยังไง ตนไม่เคยออกมาว่าด้วยซ้ำ แต่ถ้าเราล้ำเส้นคนอื่นมากเกินไป มันก็ไม่โอเค จริง ๆ แล้วกระแสพวกนี้ที่เขาทำเพื่อต่อยอดสิ่งที่คนต้องการ สักพักก็ไปแล้ว แต่ตัวเราเองที่รู้ว่าทำอะไร จึงมองเรื่องนี้เป็นกลาง