เนื้อหาโดย : โดดเด่นดอทคอม

หลุมสิว” ปัญหาใหญ่ของใครหลายๆคน ผิวหน้าที่ไม่เรียบเนียน ดูขรุขระ บางคนเป็นหนักจนเหมือนกับผิวพื้นถนนจนดูน่ากลัว ทำให้หมดความมั่นใจในตัวเองไป วันนี้โดดเด่นดอทคอมเลยมีวิธีการดูแลผิวหน้าให้เรียบเนียนใส ดูแล้วน่ามองมาฝากทุกคนกันค่ะ

Severe Acne

โดยทั่วไปแล้ว “หลุมสิว” เกิดจากการอักเสบของสิว ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นบนใบหน้า แต่เพราะพฤติกรรม บีบ แคะ แกะ เกา สิวอักเสบนั้น ทำให้เกิดหลุมสิวและร่องรอยเอาไว้ บ้างเป็นรอยลึก และเกิดพังผืดใต้ผิวหนังบริเวณที่เคยเป็นสิว โดยหลายคนนั้นเมื่อเกิดปัญหา ก็เลือกที่จะเข้ารับการรักษากับคลินิก ไม่ว่าจะเป็นวิธีการกรอหน้า และเลเซอร์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง

แต่ถ้าหากให้พูดถึงการรักษาโดยทั่วไปแล้ว ปัจจุบันนี้ยังไม่มี “ครีมหรือเซรั่ม” ที่สามารถรักษา “หลุมสิว” ให้หายได้ เพราะหลุมสิวเกิดจากพังผืดที่เกาะตัวขึ้น จำเป็นต้องใช้เครื่องมือในการตัดออก ยาทาที่พอจะมีส่วนช่วยได้บ้าง ได้แก่ยาจำพวก วิตามินซี, คอลลาเจน แต่ก็ยังไม่สามารถ แกะพังผืดใต้ผิวหนังออกได้

Acne treatment

วิธีการดูแลไม่ให้เกิดหลุมสิว

  1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ และเมื่อเป็นสิวอักเสบ ไม่ควร แคะ, แกะ, เกา หรือบีบออก เพราะจะทำให้หน้าช้ำและมือของเราเองก็เต็มไปด้วยสิ่งสกปรก แบคทีเรียมากมาย
  2. หลีกเลี่ยงการโดนฝุ่นละออง, ควันรถ ที่ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน และเกิดสิวอักเสบได้
  3. ห้ามใช้เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะจะทำให้เกิดสิวอักเสบง่ายขึ้น
  4. กำจัดความมันบนใบหน้า พกกระดาษซับมันไว้เสมอ และซับเฉพาะตอนหน้ามันมากๆเท่านั้น
  5. หากเริ่มเป็นสิวอักเสบ แนะนำทานยาจำพวก วิตามินซี, B5 และ Zinc
  6. หลีกเลี่ยงการขัด หรือนวดหน้าแรงๆ

การรักษา

  1. กรอผิว – การกรอผิวจะช่วยทำให้หลุมตื้นๆ กลับสู่สภาพเดิม การรักษาแบบนี้จะไม่เกิดบาดแผล แต่ต้องทำบ่อยครั้ง และผลที่ได้อาจจะไม่ค่อยเป็นที่น่าพอใจนัก เหมาะสำหรับคนที่มีหลุมสิวตื้นๆ ลึกแค่ผิวชั้นนอกเท่านั้น
  2. เร่งผิวใหม่ด้วยกรด TCA – การใช้กรด TCA จะช่วยเร่งผิวใหม่ ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น หากทำอาทิตย์ละครั้งจะเห็นผลใน 3-6 เดือน ซึ่งการทานั้น จะใช้แค่แต้มบริเวณที่เป็นหลุมสิวเท่านั้น เพราะการใช้ TCA จะทำให้ผิวเป็นสะเก็ดดำๆ
  3. ครีมลบรอยแผลเป็น – ครีมจำพวกที่มีส่วนผสมของ วิตามินอี, AHA, BHA จะสามารถช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังได้
  4. เลเซอร์ – เป็นวิธีที่ง่ายและเร็วที่สุด ปัจจุบันมีเลเซอร์มีหลายหลายชนิด ที่ช่วยทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น ซึ่งคุณต้องรับการปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน แต่ราคาในการรักษานั้นค่อนข้างแพง

การรักษาหลุมสิวนั้น หากเป็นแล้ว เมื่อรับการรักษาจำเป็นต้องใช้เวลา ซึ่งกินเวลา 3-6 เดือนแล้วแต่สภาพผิวหน้าของแต่ละคน อีกทั้งยังเสียค่าใช้จ่ายในการดูแลค่อนข้างสูง โดดเด่นแนะนำว่า ทางที่ดีเราควรหลีกเลี่ยงที่อาจทำให้เกิดหลุมสิวกันดีกว่า โดยเฉพาะ การนำมือของเราสัมผัสใบหน้าบ่อยๆ เพราะมือของเราเต็มไปด้วยแบคทีเรียต่างๆในแต่ละวัน อาจทำให้หน้าเราสกปรก และติดเชื้อแบคทีเรียได้

ข้อมูลจาก : ไข่เจียว, Toodcream, Rayshi

เรื่องน่าสนใจ