ที่มา: nationtv

เรียบเรียงโดย โดดเด่นดอทคอม

ภาพจาก เนชั่น

เหตุการณ์น่าซึ้งใจ เมื่อผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้มีผู้เสียชีวิตอยู่ที่บ้านเลขที่ 47 ม.2 ต.ท่ากระชับ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นานกว่า 10 เดือน

โดยมีผู้เป็นสามี นอนเฝ้าศพภรรยามานานกว่า 10 เดือน โดยไม่แพร่งพรายให้ใครรู้ อีกทั้งยังไม่ได้จัดการศพตามประเพณี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบยังบ้านหลังดังกล่าว

ภายในบริเวณบ้าน ซึ่งปลูกเป็นบ้านไม้ยกพื้นและมีบันไดพาดขึ้นไปสู่ตัวบ้านชั้น 2 พบ นายณรงค์ชัย คงยั่งยืน นายก อบต.ท่ากระชับ,นายโสภณ แช่มมั่นคง รองนายก อบต.ท่ากระชับและนายเทวา มีใจบุญ ผู้ใหญ่บ้าน ม. 1 ต.ท่ากระชับ

พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่ากระชับ และชาวบ้านกว่า 10 คน ได้มาช่วยกันเก็บกวาดและทำความสะอาดบริเวณบ้านเพื่อเตรียมจัดพิธีสวดอภิธรรมศพ

โดยผู้สื่อข่าวได้ขึ้นไปดูในห้องนอนชั้น 2 พบกองเสื้อผ้ากองกระจัดกระจายอยู่เต็มห้อง ใกล้กันพบมุ้งกางอยู่ 1 หลัง เมื่อเปิดออกดูพบศพโครงกระดูกของนางซกกี จู่ยืนยง อายุ 83 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอน โดยมีผ้าห่มคลุมร่างอยู่ เเละพบอาหารคาวหวานวางอยู่

จากการสอบถาม นายเทวา มีใจบุญ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลท่ากระชับ บอกว่า ในอดีตเมื่อ 40-50 ปีก่อน ครอบครัวของผู้ตาย มีอาชีพจับหมู จนมีฐานะร่ำรวย ต่อมาเนื่องจากเศรษฐกิจเกิดพลิกผัน ครอบครัวของผู้ตายจึงเลิกจับหมูและหันมาเก็บฟืนและเก็บของเก่าขาย ทำให้รายได้ขาดแคลนลง

8z

ส่วนลูกชายคนเดียวได้แต่งงานมีครอบครัวและย้ายออกไปซื้อที่ปลูกบ้านอยู่ที่ จ.ชัยภูมิ และไม่ได้กลับมาบ้านอีกเลย ตั้งแต่ปี 2554 จนถึงปัจจุบัน

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 ที่ผ่านมา ได้ทราบจาก นายกุญชร ตัณไพบูลย์ ส.อบต.ม. 2 ว่า มีเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้บ้านที่มีศพหญิงชราที่เสียชีวิต บอกว่าได้กลิ่นสาบสางคล้ายกลิ่นศพโชยมาจากบ้านหลังดังกล่าว ที่มีอากงยมหรือเตี้ย พักอาศัยอยู่กับภรรยาที่พิการตามองไม่เห็นและเดินไม่ค่อยได้

ประกอบกับไม่เห็นอาม่าซกกี วัย 83 ปี เมียของอากงเตี้ย มานานนับสิบเดือนแล้ว แต่อากงเตี้ย ยังคงอยู่ปกติ ไปไหนมาไหนปกติ ที่น่าสังเกตก็คืออากงเตี้ยมักซื้อของกินจำพวกโอวัลติน นมกล่อง และขนมมาตอนเช้า ๆ แล้วเอาขึ้นไปบนบ้าน เป็นแบบนี้มานานนับสิบเดือน

อีกทั้งอากงยมยังได้ล็อคกุญแจบ้านไว้ตลอดเวลา ไม่ยอมให้ใครเข้าไปดูแต่อย่างใด จึงได้เดินทางไปตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว พร้อมผู้ใหญ่บ้านและนายกอบต.ท่ากระชับ

เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบอากงเตี้ย หรือนายยม จู่ยืนยง อายุ 76 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นสามีของผู้ตายอยู่ในบ้าน เบื้องต้น อากงเตี้ย หรือนายยม ก็บ่ายเบี่ยงทั้งยังบอกว่า ผู้ตายนั้นได้ไปอยู่กับลูกชายที่หนองบัว จ.ชัยภูมิแล้ว จึงได้ติดต่อไปยัง นายอนุสิทธิ์ จู๋ยืนยง อายุ 44 ปี ลูกชายคนเดียวของผู้ตาย จึงทราบว่า ผู้ตายไม่ได้ไปอยู่ด้วย

อีกทั้งมีกลิ่นสาบคล้ายซากศพโชยจากบนบ้าน และมีคราบคล้ายน้ำเหลืองไหลเลอะใต้ขื่อจากบ้านห้องนอนของบ้าน จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและเดินทางมาตรวจสอบ จึงได้พบว่าอาม่าซกกีเสียชีวิตแล้ว โดยที่อากงเตี้ย นอนกินอยู่กับศพของภรรยามานานกว่า 10 เดือน

อากงเตี้ยเล่าว่า ตนครองรักครองเรือนอยู่กับ ผู้ตายผู้เป็นภรรยามานานกว่า 44 ปี โดยอยู่กินฉันสามีภรรยากันมาตั้งแต่ผู้ตายอายุ 38 ปี มีลูกชายด้วยกัน 1 คนคือนายอนุสิทธิ์ ปัจจุบันอายุ 44 ปี ไปมีครอบครัวอยู่ที่จังหวัดชัยภูมิ

โดยตนและภรรยายึดอาชีพรับจ้างทั่วไป อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข มีบ้างขาดบ้างแต่ไม่เคยทอดทิ้งกัน ภรรยาอยากกินอะไรแพงแค่ไหน ก็จะเก็บเงินซื้อมาให้กิน

ยิ่งตอนภรรยาเดินไปไหนๆไม่ได้ ความจำเริ่มหลงลืม ตนยิ่งไม่ทอดทิ้ง คอยดูแลปรนนิบัติหาข้าวหาน้ำและขนมมาให้กินถึงในมุ้งทุกวัน รวมทั้งเก็บเช็ดล้างสิ่งขับถ่ายให้ทุกวันไม่เคยรังเกียจ

นายณรงค์ชัย คงยั่งยืน นายก อบต.ท่ากระชับ กล่าวว่า หลังจากสอบถามอยู่เป็นเวลานาน ในที่สุดอากงเตี้ย ก็เปิดปากรับสารภาพว่า อาม่าซกกี ภรรยาได้เสียชีวิตด้วยโรคชราไปแล้ว ตั้งแต่เวลาประมาณ 13.10 น.ของวันที่ 13 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา

แต่ที่ไม่ได้บอกใคร เพราะภรรยาสั่งไว้ว่า ถ้าตายไม่ต้องสวด ไม่ต้องเผา ไม่ต้องบอกใคร ให้เอาศพไว้บนบ้านหลังนี้ เพราะจะเป็นการรบกวนชาวบ้าน จึงได้เก็บศพภรรยาไว้ในมุ้งตามที่ภรรยาสั่งเสีย และก็นอนอยู่ด้วยกับศพภรรยาในในมุ้งเดียวกัน อย่างที่เคยนอนสมัยมีชีวิต

เรื่องน่าสนใจ