แฟนหนังตะลึง…นาซาโชว์ภาพจริง พื้นผิวที่ราบบนดาวอังคาร บริเวณ ‘อาซิดาเลีย แพลนิเทีย’ ถ่ายโดยยานสำรวจอวกาศดาวอังคาร ‘มาร์ส รีคอนเนสเซนซ์ ออร์บิเตอร์’ ถูกใช้เป็นฉากในหนัง ‘เดอะ มาร์เทียน’ ที่กำลังลงโรงฉายโกยเงิน แสดงนำโดย แมท เดมอน
(บริเวณที่ราบ ‘อาซิดาเลีย แพลนิเทีย’ บนดาวอังคาร)
เมื่อวันที่ 7 ต.ค.58 เว็บไซต์ เดอะ มิร์เรอร์ ออนไลน์ รายงานว่า องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (นาซา) ได้เผยแพร่ภาพถ่ายบนพื้นผิวดาวอังคาร ที่ต้องสร้างความตกตะลึงให้แก่ผู้ได้ชมภาพยนตร์เรื่องเดอะ มาร์เทียน (The Martian) อย่างมาก เนื่องจากเป็นภาพพื้นผิวที่ราบบนดาวอังคารในบริเวณหนึ่ง ที่เรียกว่า ‘อาซิดาเลีย แพลนิเทีย’ บันทึกโดยยานสำรวจ มาร์ส รีคอนเนสเซนซ์ ออร์บิเตอร์ (Mars Reconnaissance Orbiter) ที่นาซาส่งขึ้นไปสำรวจพื้นผิวดาวอังคารนั้น ได้ถูกใช้เป็นฉาก สถานที่ในภาพยนตร์เรื่องเดอะ มาร์เทียน ที่กำลังทำเงินในโรงภาพยนตร์ ซึ่งแมท เดมอน พระเอกคนดัง รับบทแสดงเป็นนักบินอวกาศ มาร์ค วัตนีย์ พระเอกในเรื่อง
บริษัทสร้างภาพยนตร์ ทเวนตี้ เซนจูรี่ ฟอกซ์ เผยแพร่ภาพฉากในภาพยนตร์เรื่อง เดอะ มาร์เทียน (The Martian)
บริเวณ อาซิดาเลีย แพลนิเทีย และที่ราบอีกแห่ง ในภาพยนตร์เรื่องเดอะ มาร์เทียน ใช้เป็นบริเวณที่ลงจอดของยานอวกาศ 2 แห่ง ที่เรียกว่า ‘เอเรส 3’ และ ‘เอเรส 4’ โดยบริเวณ อาซิดาเลีย แพลนิเทีย เป็นที่ราบ ซึ่งบริเวณนั้นมีหลุมกว้าง ส่วนสถานที่อื่นๆ ในภาพยนตร์ก็สามารถเห็นในภาพที่ถ่ายโดยกล้อง High Resolution Imaging Science Experiment (HiRISE) ของยานสำรวจมาร์ส รีคอนเนสเซนซ์
สำหรับภาพยนตร์เรื่อง เดอะ มาร์เทียน สร้างโดย ริดลีย์ สก็อตต์ โดยนำเนื้อเรื่องมาจากนวนิยายขายดี แต่งโดยแอนดีย์ ไวร์ ซึ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ มีฉากหลายฉากมากถ่ายทำบนที่ราบอาซิดาเลีย แพลนิเทีย ซึ่งในหนังสือได้เขียนอธิบายไว้ว่า เป็นพื้นที่ราบ และง่ายต่อการขับยานสำรวจ แต่ตามรายงานของนาซา ระบุว่า ที่ราบบริเวณดังกล่าวบนดาวอังคาร เป็นพื้นที่ที่อันตรายและยากมากขึ้นกว่าเดิมในการสำรวจค้นหาสิ่งมีชีวิต
แมท เดมอน พระเอกชื่อดังรับบทเป็น นักบินอวกาศ พระเอกในหนังเรื่อง เดอะ มาร์เทียน
ทั้งนี้ ดาวอังคาร ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ที่มีขนาดเล็กที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากดาวพุธ ในระบบสุริยะของเรา กำลังเป็นดาวเคราะห์ที่ได้รับความสนใจมากที่สุดตอนนี้ หลังจากนาซาเพิ่งออกมาประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่า พบร่องรอยลักษณะคล้ายของเหลวไหลบนผิวดาวอังคาร จนถือเป็นการจุดประกายถึงความเป็นไปได้ที่ดาวอังคารดวงนี้จะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่