ที่มา: Eyebankthai

 สาเหตุที่ทำให้เกิดกุ้งยิง  กุ้งยิงเกิดจากการติดเชื้อแบคที่เรีย บางรายเกิดเนื่องจากมีการอุดตันของต่อมบริเวณเปลือกตานำมาก่อน แล้วเกิดการติดเชื้อซึ่งมีอยู่เป็นปกติในบริเวณนั้นตามมา สาเหตุที่ทำให้เกิดติดเชื้อได้ง่ายได้แก่ 

1. เปลือกตาไม่สะอาด มักเกิดจากการขยี้ตาบ่อย ๆ
2. ใช้เครื่องสำอาง แล้วล้างออกไม่หมดหรือล้างไม่สะอาด
3. ใส่หรือถอดคอนแทคเลนส์ด้วยมือที่ไม่สะอาด

19-46

อาการ
ผู้ป่วยจะมาด้วยอาการปวดหนังตา กลอกตาหรือหลับตาจะทำให้ปวด บางคนมีอาการบวมที่เปลือกตา คลำได้ก้อนหรือเห็นเป็นก้อนที่เปลือกตา บางคนบวมมากจนตาปิด บางคนมีหนองไหลออกจากเปลือกตา หากหนองแตกในตาจะทำให้มีขี้ตาเป็นสีเขียว

วิธีการรักษา
 เมื่อสงสัยว่าเริ่มเป็นตากุ้งยิง ก็ควรรีบมาพบจักษุแพทย์โดยเร็ว เพราะในระยะแรกจะมีลักษณะแบบเปลือกตาอักเสบ ยังไม่มีหนอง ถ้าได้ใช้ยาทันท่วงที และใช้น้ำอุ่นประคบบริเวณที่เป็น จะทำให้ไม่เกิดการรวมตัวเป็นฝีขึ้น กุ้งยิงก็จะหายได้โดยการใช้ยาเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องผ่าฝี การใช้ยา ควรได้รับการตรวจตาและสั่งยาโดยแพทย์ ยาที่ใช้มักเป็นยาปฏิชีวนะหยอดตาป้ายตา และบางรายอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะรับประทานร่วมด้วย แต่ในรายที่เป็นฝีหรือตุ่มเป็นไตขึ้นมาแล้วจำเป็นต้องทำการผ่าฝีและขูดบริเวณนั้นออกให้สะอาดจริง ๆ ร่วมกับการใช้ยา  เพื่อรักษาให้หายขาดและไม่ให้เป็นซ้ำอีก ในบางรายอาจเป็นซ้ำได้ถ้าหนองยังออกไม่หมด  หรือการอักเสบยังไม่หายดี

การผ่าตัดระบายหนอง  จักษุแพทย์จะใช้ยาชาหยอดตาให้ชา และใช้ยาชาเฉพาะที่ฉีด ดังนั้นขณะที่ทำคนไข้จะไม่เจ็บ หลังการเจาะกุ้งยิง แพทย์มักปิดตาข้างนั้นไว้เพื่อไม่ให้เลือดออก และช่วยลดอาการบวมประมาณ 4-6 ชั่วโมง    ท่านไม่ควรขับรถในช่วงนั้นเพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ถ้ามีอาการปวดเจ็บบริเวณที่เป็น ให้รับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอลครั้งละ 1-2 เม็ดทุก 4 ชั่วโมงเมื่อมีอาการ

การดูแลตนเองถ้าเป็นกุ้งยิง ประคบด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นหรือไข่ต้มสุกห่อผ้าสะอาดบริเวณที่เป็นวันละ 3-4 ครั้ง ครั้งละประมาณ 15-20 นาที่
เป็นเวลา 3-4 วัน เพื่อช่วยลดอาการบวม เจ็บ  และเป็นการทำให้รูเปิดของต่อมเปลือกตาไม่อุดตัน ในขณะทำการประคบให้หลับตาไว้

1.ล้างมือบ่อยๆ
2.งดทาเครื่องสำอาง
3.หลีกเลี่ยงการใส่คอนแทคเลนส์
4.ไม่ควรบีบหนองที่เปลือกตาเอง เพราะอาจทำให้อักเสบมากขึ้น

วิธีป้องกัน
วิธีป้องกันง่าย ๆ คือ พยายามรักษาความสะอาด ไม่เอามือสกปรกไปขยี้ตารักษาความสะอาดบริเวณใบหน้าและเส้นผม สระผมบ่อย ๆ อย่าให้ผมแยงตา และเมื่อสงสัยหรือเริ่มมีอาการ ก็ควรรีบมาพบจักษุแพทย์โดยเร็ว

เรื่องน่าสนใจ