ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์

แท็กซี่มหาภัยร่วมกับเพื่อนเป็นชายฉกรรจ์อีก 2 คน วางแผนปล้นโหดหนุ่มเมียนมากับเมียสาวกำลังตั้งครรภ์อ่อน 2 เดือน หลังเหยื่อลงจากรถทัวร์โดยสาร ย่านรังสิตเรียกให้ไปส่งที่พักใน จ.สมุทรปราการ โทรศัพท์นัดเพื่อนร่วมแก๊งแล้วขับรถวนไปรับขึ้นรถ ขับไปจอดใกล้ที่ทิ้งขยะบริเวณลานจอดรถผับโซน รุมยำจนต้องแกล้งสลบ ล้วงหยิบเงินและโทรศัพท์มือถือ แล้วขับรถพาเมียเหยื่อไปห้องพักหมายขืนใจ แต่เหยื่อสาวร้องโวยวายจนถอดใจพาไปส่งริมถนนแล้วเผ่นหนี พลเมืองดีช่วยเหลือพาส่งตำรวจ ส่วนคนร้ายหนีไม่รอดถูกตามลากคอได้แล้ว 2 คน

EyWwB5WU57MYnKOuYBpOhxR5i4BHIRTGTv3bm33OxL3129fsBa57QE

แท็กซี่โจรร่วมกับพวกอีก 2 คนปล้นหนุ่มเมียนมาลักพาเมียสาวหมายขืนใจรายนี้ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 28 พ.ย. พ.ต.ท.ไชยันต์ ดาวเรือง พงส.สภ.สามโคก จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านชายชาวพม่าถูกปล้นและถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บใกล้ที่ทิ้งขยะบริเวณลานจอดรถผับโซน ถนนเชียงรากใหญ่ หมู่ 3 ต.เชียงรากใหญ่ พร้อมด้วย พ.ต.ท.อังกูร ทวีเกตุ สว.สส. นำกำลังและเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดไปตรวจสอบ

พบนายตันซู อ่อง อายุ 30 ปี ชาวพม่า ทำงานเป็นช่างปูกระเบื้องไซต์งานก่อสร้างแห่งหนึ่ง พักอยู่คอนโดเอื้ออมรสุข ซอย 31 อักษรลักษณ์ 2 ต.ปากน้ำ อ.เมืองสมุทรปราการ ถูกทำร้ายสะบักสะบอมใต้คางแตก และมีรอยฟกช้ำตามร่างกายหลายแห่ง นำกลับมาสอบสวนที่โรงพัก ซึ่งนายตันซู อ่อง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 05.00 น. ตนกับภรรยาชื่อ น.ส.อิอิโม อายุ 22 ปี สัญชาติเดียวกัน ตั้งครรภ์ได้ประมาณ 2 เดือน นั่งรถทัวร์โดยสารจาก อ.แม่สอด จ.ตาก กลับจากนำเงินไปให้แม่ยาย มาลงรถริมถนนพหลโยธิน หน้าห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รังสิต แล้วเดินไปเรียกรถแท็กซี่มิเตอร์สีเขียวเหลือง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน คนขับเป็นชายไม่ทราบชื่อ จอดอยู่ใกล้วินรถตู้ข้างโรงภาพยนตร์เมเจอร์รังสิต ว่าจ้างให้ไปส่งที่ จ.สมุทรปราการ โดยตนกับภรรยานั่งอยู่ที่เบาะหลัง

เหยื่อแท็กซี่โจรให้การต่อว่า จากนั้นโชเฟอร์แท็กซี่ได้ขับรถวนไปมา พร้อมโทรศัพท์นัดเพื่อนร่วมแก๊งก่อนจะขับไปรับคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์ 1 คนที่ปั๊มน้ำมันไม่ทราบชื่อ แล้วขับรถไปรับคนร้ายเป็นชายอีก 1 คนยืนรออยู่บนโทลล์เวย์นั่งประกบตนกับภรรยาที่เบาะหลัง จากนั้นโชเฟอร์ขับลงที่ดอนเมืองก่อนถึงด่านเก็บเงิน ขับมาที่จุดเกิดเหตุเป็นที่เปลี่ยวและมืด ก่อนที่โชเฟอร์แท็กซี่กับเพื่อนฉุดลากตนลงจากรถใช้มีดจี้ขู่ แล้วรุมทำร้ายใช้ไม้ตีและเตะต่อยตนจนต้องแกล้งสลบ ส่วนคนร้ายอีกคนล็อกคอ น.ส.อิอิโม บังคับให้นั่งอยู่กับที่ แล้วคนร้ายล้วงหยิบเงิน 600 บาทและโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และหนังสือ เดินทางในกระเป๋าสะพายของตนเดินกลับไปขึ้นรถขับหนีไป โดยพาภรรยาของตนไปด้วย ตนรอจนรถแท็กซี่ไปแล้วหลบอยู่ที่เกิดเหตุ จนพลเมืองดีมาพบช่วยโทรศัพท์แจ้งตำรวจ

จากนั้น พ.ต.ท.อังกูร ทวีเกตุ สว.สส. นำนายตันซู อ่อง ไปตรวจหาหลักฐานที่เกิดเหตุอย่างละเอียดพบกระเป๋าสตางค์ของ น.ส.อิอิโมตกอยู่ รวมทั้งจุดที่ผู้เสียหายเรียกรถแท็กซี่ พร้อมประสานไปยังตำรวจท้องที่ต่างๆ ช่วยสกัดจับคนร้าย รวมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนีเพื่อเป็นเบาะแสติดตามช่วยเหลือ น.ส.อิอิโม และจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาเวลา 19.00 น. นายธนวัฒน์ ปาทาน อายุ 39 ปี ผู้รับเหมาก่อสร้างย่านดอนเมือง พา น.ส.อิอิโมมาส่งที่ สภ.สามโคก ซึ่งตำรวจกำลังสอบปากคำนายตันซู อ่อง สามี กับนายจ้าง พอเจอหน้ากันนายตันซู อ่อง วิ่งเข้ามากอดภรรยาด้วยความดีใจ โดย น.ส.อิอิโมให้การว่า หลังเกิดเหตุคนร้ายขับรถพาไปที่ห้องพักลักษณะคล้ายอพาร์ตเมนต์ ปลุกปล้ำหมายขืนใจจึงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ คนร้ายเห็นท่าไม่ดีรีบปลอบจะไม่ทำอะไร แล้วขับรถพาไปปล่อยริมถนนไม่ทราบชื่อย่านดอนเมือง กรุงเทพฯ ตนเดินไปขอความช่วยเหลือคนงานก่อสร้างชาวเมียนมา หลังทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแจ้งให้นายธนวัฒน์ ซึ่งเป็นนายจ้างทราบขับรถพาตนไปส่งที่บ้านใน จ.สมุทรปราการ เพื่อนบ้านรีบโทรศัพท์ไปบอกนายจ้างของสามีที่กำลังให้ปากคำอยู่ที่โรงพัก ตำรวจขอให้นายธนวัฒน์ช่วยพามาส่งที่โรงพัก

ด้าน พ.ต.อ.สมหมาย นาคประสิทธิ์ รอง ผบก.ภ.จ.ปทุมธานี ซึ่งมาควบคุมคดีอย่างใกล้ชิด เปิดเผยว่า ขณะนี้รู้ตัวคนร้ายและออกหมายจับแล้ว ชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมได้ที่ จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 2 คน ชื่อนายชาลี หนูขาว อายุ 37 ปี กับนายศราวุธ โลเปือย อายุ 30 ปี อยู่ระหว่างคุมตัวมาสอบสวน ส่วนคนร้ายที่ยังหลบหนีชื่อนายอนันต์ เอี่ยมละออ อายุ 37 ปี ซึ่งตำรวจจะเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

เรื่องน่าสนใจ