ใครที่ชอบทริปการท่องเที่ยวแบบ ราคาจำกัด หรือราคาไม่แพง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในแถบยุโรบคงพลาดไม่ได้กับรีวิว นี้ เพราะเขา ChillJourney ได้ออกท่องเที่ยวยุโรป Switzerland และ Italy ทั้งหมด 17 วันด้วยเงินไม่ถึง 70,000 ด้วยซ้ำ!!
ทริปนี้ถือเป็นการตามหาความฝันของตัวเองที่อยากทำมานาน ก็นับว่าเป็นภาคต่อจากกระทู้ 2 ปีทำงานไป เรียนไป เที่ยวไป 10 ประเทศ http://pantip.com/topic/33162075 ตอน นี้ผมเรียน ป.โทจบแล้วทริปนี้เหมือนเป็นทริปฉลองเรียนจบของตัวเองและเป็นการสานต่อความ ฝันวัยเด็กไปในคราวเดียวกัน ( ดูยิ่งใหญ่เน้อะ 555 )
ทริปนี้จะเป็นทริปที่สุดหลายอย่างตั้งแต่ผมเกิดมาเลยหล่ะ เป็นอะไรที่ฝันมานานมากกกกกกกก อยาก Backpack ทริปนานๆ นอนโฮสเทล อะไรที่เคยดูรายการมา Roaming เอย หนังพาไป เอย along way home เอย ผมอยากทำตามทุกสิ่ง อยากลองมีชีวิต Backpacker จริงๆแบบนั้น
….. เดินทางไกลที่สุด
….. ทริปนานที่สุด
….. ค่าครองแพงที่สุด
….. อยู่แบบจนที่สุด
หลายคนอาจจะมองว่าไปเที่ยวนะไม่ใช่ไปลำบาก แต่สำหรับผมการลำบากมันคือรสชาติชีวิตอย่างหนึ่ง อนาคตจะได้บอกกันทุกคน รวมทั้งตัวเองได้ว่าครั้งหนึ่งเราเคยทำอะไรแบบนี้มาแล้ว
แผนการเที่ยว
แผนการเที่ยวของผมจะเป็นการไล่จากบนลงล่าง เที่ยวชิวๆ สไตล์ชิล ผมเลือกจะนอนค้างเมืองละอย่างน้อย 1 คืนเพื่อซึบซับเมืองนั้นๆ
จะไป สวิตเซอร์แลนด์ และ อิตาลีต้องทำวีซ่าอะไรบ้าง
– ใช้วีซ่าเชงเก้น เป็นวีซ่าที่ใช้ในกลุ่มยุโรป ผมขอไม่อธิบายการทำเพราะมีกระทู้ How to เต็มไปหมด ผมว่าเชงเก้นขอไม่ยาก ขอให้เอกสารครบตามที่เค้าต้องการ จุดประสงค์คุณไปเที่ยวชัดเจน ผมว่าก็ผ่านครับ
การเดินทางภายในประเทศให้ประหยัด
– สวิตเซอร์แลนด์ใช้ Swiss pass คุ้มที่สุดแล้ว ผมพยายามจะหาวิธีที่ถูกสุดในการเดินทางในสวิส อันนี้หล่ะครับคุ้มสุดไม่ต้องไปหาวิธีอื่น ( ผมเคยคำนวณแล้ว )
– รถไฟอิตาลี ไม่ต้องซื้อตั๋วเหมาให้ซื้อเป็นเที่ยวๆ โดยจองล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือนจะได้ราคา economy , super economy ซึ่งถูกไปประมาณ 50-60% เลย จองผ่าน www.trenitalia.com ปริ้นไปขึ้นรถไฟได้เลยไม่ต้อง validate ( ระวังซื้อผิดวันแบบผมนะ refund ไม่ได้ทิ้งอย่างเดียวครับ )
– ในอิตาลีตั๋วเหมาเป็นอะไรที่คุ้มนะ เช่น Verona card , Venice 48 hr. , Metro rome 48 Hr.
อาหาร
– ที่สวิสแพงทุกอย่างผมแทบจะไม่ได้ซื้ออะไรเลยจากแซนวิส/ขนมปัง ตอนกลางวัน อยากหาของถูกมองหาร้าน COOP ไว้ผมฝากท้องกะซุปเปอร์นี้ตลอด ร้านข้างทางแพงกว่า COOP เชื่อผมเถอะ
– ที่อิตาลี อาหารไม่แพงมากพอรับได้ พิซซ่าชิ้นละประมาณ 2.5 – 3.5 EU ก็อิ่มนะครับ อย่าเข้าร้านอาหารก็พอ เพราะตามร้านมื้อละประมาณ 10 EU เป็นต้นไป ซุปเปอร์ที่เราค้นพบว่าของถูกชื่อว่า PAM ครับ ถ้าพักโฮสเทลมีครัวซื้อมาทำเองประหยัดโคตรๆครับ
– น้ำ กินจากน้ำก๊อกเอาครับ น้ำประปาสามารถทานได้ รวมทั้งน้ำพุตามเมืองต่างๆที่อิตาลีก็กินได้เช่นกัน
– Gelato หรือ ไอติมที่อิตาลีอร่อยมากกก ปกติผมทานประมาณ 3 scoop โคนละประมาณ 2.5-5 EU แม้จะประหยัดแต่อันนี้ยอมกินวันละ 1-2 แท่ง บางทีกินแทนข้าวเย็น ( หมดค่าไอติมไปประมาณ 40 EU !! )
ที่พัก
ผมนอนโฮสเทลที่เน้นทำเลดี ได้Ratingดี ไม่ได้เน้นถูกที่สุดหรือถ้ามีโรงแรมที่หารแล้วแพงกว่า hostel นิดเดียวทำเลยังดีอยู่ผมก็จะจองโรงแรมครับ
***ที่สวิสให้พักที่เดียวกันหลายๆวันแล้วนั่งรถไฟเที่ยวเอาแผนให้ปรับตาม พยากรณ์อากาศ ถ้าอากาศดีให้ขึ้นเขา อากาศแย่ให้เที่ยวในเมือง อย่าไปวัดใจระบุวันนะครับ วันฟ้าปิดมันปิดจริงๆจ่ายเงินขึ้นเขาเป็นพันๆไม่เห็นอะไรเลยเศร้าเลยนะ ( ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยเชื่อ แต่ฟ้าปิดคือปิดจริงๆนะไม่ใช่แค่ไม่สวย แต่ “ไม่เห็นอะไรเลย” )
นี่คือที่พักของผมทั้งหมด รีวิวที่พักสั้นๆ ผมว่าโอเคสอบผ่านทุกที่ สะอาดทุกที่ครับ
Switzerland
Interlaken – Alplodge * 3 night << ถูก ,ทำเลดี , มีครัว ,แต่สัญญาณไวไฟห่วย
Zermatt – Youth hostel Zermatt << เดินไกลกว่าจะถึงแต่ถูกสุดที่หาได้ ข้อดีคืออาหารเช้าดีสุดสามโลก
Italy
Milan – The Monastery Hostel << ถูก , ทำเลดีใกล้ metro , ห้องใหม่เพิ่ง renovate , มีครัว
Como – Lake Como Hostel << ห้องเก่า เตียงเห่ย แต่staffดีมาก บรรยากาศ backpacker สุดๆชอบมากกกก
Verona – Residence Romeo and Juliet << เป็น BB ที่ดีมาก แต่ต้องหาคนแถวนั้นโทรหาเจ้าของให้
Venice – Hotel Vidale * 2 night << ที่พักในเวนิสจะแพงมาก ถ้าประหยัดให้พักอยู่แถว venice mestre รร.นี้เก่า แต่ทำเลดี ใกล้ห้างขายของถูกมาก และนั่งบัสสายเดียว 15 นาทีถึงเวนิสเลย
Florence – Wow Florence Hostel * 2 night << ไกลหน่อยเดินสัก 1.5 กิโลจากสถานี ภาพรวมโอเค
Clique torre – Luciano ( Riomaggiore ) << ทำเลดี แต่ตำแหน่ง GPS ใน booking ไม่ตรง เดินขึ้นเขาลงเขา 1 ชั่วโมง…แทบตาย
Rome – Hostel Carlito * 2 night << ทำเลดีใกล้ metro มาก , เตียงดีมาก , ข้อเสียคือไม่มีล็อคเกอร์ , ไม่มีครัว
สรุปใช้ไปเท่าไหร?
มาเรื่องของงบประมาณ … คงอยากรู้ว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่า 80,000 นี้มันรอดไม๊ ?
ผมเคยไปถามแต่ละคนที่เคยไปมาแล้ว ทริปนานขนาดนี้ในงบเท่านี้มันจะไหวไหม แต่ละคนก็ตอบแบบไม่มั่นใจ.. เพราะยุโรปโซนนี้มันแพงจริงๆ และนี้
ผมเพิ่มค่าใช้จ่ายที่อาจจะลดลงได้อีก 3 รายการ ถ้าไม่จองรถไฟผิดวัน ไม่กินไอติมบ้าคลั่งแบบผม และคุณอายุน้อยกว่า 26 ปี ทริปของคุณจะเหลือประมาณ 60,544.27 ครับ ( แพงกว่าไปญี่ปุ่นไม่เยอะเลยนะ )
หมายเหตุ : ผมก็รู้สึกว่าไม่ได้ประหยัดมากจนกินไม่อิ่มนะ โดยเฉพาะพอเข้าที่อิตาลีของถูกลงกว่าสวิสอย่างเห็นได้ชัด ผมก็เริ่มไม่ประหยัด และเป็นคนชอบกินไอติมมาก ผมกินไอติมวันละ 1-2 แท่ง บางมื้ออยากกินอาหารดีๆบ้างก็เข้าร้านอาหารกินมื้อละ 10 EU บ้างก็มีนะ
ยุโรปไม่แพงอย่างที่คิด และก็ไม่ไกลเกินฝันนะครับ ^^
เอาหล่ะเกริ่นมานานได้เวลาอวดภาพ ชมวิว บิ้วแรงบันดาลใจออกไปท่องโลกกันดีกว่า …
Switzerland – ประเทศที่ผมคิดว่ามีแค่ ภูเขา กับ ทะเลสาบ แต่เป็นอะไรที่สวยงามอลังการจริงๆ
ล่องเรือใน Lake lucerne – มุ่งสู่ภูเขาน้ำแข็ง เฮ้ยนี่มันฉากในหนังชัดๆ
สะพานมีชื่อแห่งเมือง Lucerne “Kapellbrücke”
ถ่ายผู้คนกับเมืองโคตร classic อย่างเมือง “Bern”
และในวันฟ้าเป็นใจ ก็เลยยืนมองเขาเพลินๆ
จากเดิมที่จะไปแค่ murren เพราะ Swiss pass ใช้ได้ฟรีถึงแค่จุดนี้ แต่วันนั้นฟ้าใสมาก ผมพูดกับเพื่อนเล่นๆ : ขึ้นเขาป่าวฟ้าใสโคตร
เพื่อน : นี่ทำทริปงบบานปลายตลอดนะ
ชิล : เดียวไปดูราคาก่อนถ้าไม่แพงมากกูยอม ฟ้าใสโคตร
พวกเราเดินไปดูราคากันก่อนว่าเท่าไหร ฟ้าใสจนถ้าไม่แพงมากจะยอมจ่ายเพราะฟ้าใสแบบนี้หาได้ยากมาก คนมาสวิสส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เห็นยอดเขาเน้นๆแบบเรา พอถามราคาแล้วก็ 40 CHF ตีเป็นเงินไทยก็ ประมาณ 1,500 บาท ถือว่าแพงอยู่นะ
แต่มาขนาดนี้ ฟ้าเปิดขนาดนี้ โอกาสไม่บ่อยกัดฟันจ่าย แล้วเดียวเราไปประหยัดค่าอื่นๆเอา พอขึ้นกระเช้าตอนแรกก็เฉยๆ แต่พอกระเช้าสูงขึ้น สูงขึ้น จนทะลุเมฆแล้วเห็นยอดเขาน้ำแข็งตะหง่าน ตรงหน้า มันคุ้มค่ากับเงิน 1,500 อย่างรุนแรง นี่ถ้าไม่ยอมจ่ายคงจะเสียดายมาก
เกิดมาไม่คิดไม่ฝันว่า ค่าโฮสเทลห้องรวม 8 เตียงจะแพงขนาดนี้ !! ที่เมือง Zermatt ราคาคืนละเกือบๆ 1600 บาท แต่ยอมจ่ายเพราะอยากตื่นมาแล้วเห็นแสงแรกอาบยอดเขา Matterhorn
จาก Zermatt เราก็นั่งรถไฟข้ามประเทศกันมายังอิตาลี จ่ายไป 3,000 แต่! รถไฟรอบของเราเสีย
( Technical problem แล้วให้ลงจากรถ ห๊ะ! ) จ่ายไป 3,000 นั่งพื้นมากับรถไฟขบวนถัดไป ไงละชีวิต Backpacker = =”
Lake como – เมืองที่ Celebrity มักจะมาพักผ่อน เศษเล็บแบบผมจะพลาดได้ไง
Venice – เมืองที่ไม่มีที่ไหนในโลกเหมือน สวยมากจริงๆเป็นเมืองที่ผมชอบสุดในอิตาลีเลยครับ