ถอดชีวิตที่วุ่นวายไปเที่ยวเกาะหมาก เพราะเกาะนี้ไม่ได้มีแค่ทะเลนะ! ออกไปรับพลังจากธรรมชาติและสายลมแห่งทะเลให้หายเหนื่อยกันค่ะ!
หากคุณกําลังหาสถานที่เที่ยวแบบนี้อยู่ เราขอแนะนําชวนคุณไปเที่ยวเกาะหมากกัน จะเดินทางจากเกาะช้าง หรือจะเดินทางจากแหลมงอบ จ.ตราด ก็มีเรือนําไปเกาะหมากได้สะดวกเหมือนกันค่ะ
หากเข้าบ้านใคร ก็ควรกล่าวสวัสดีทักทายเจ้าของบ้าน ตามธรรมเนียมดังกล่าวถือเป็นมารยาทอันดีงาม ไม่ว่าจะชนชาติใด ดังนั้น การมาเที่ยวเกาะหมาก เราคิดว่าคุณควรไปเยือน เรือนหลวงพรหมภักดี ซึ่งอยู่ใกล้กับท่าเรืออ่าวนิด เดินผ่านหาดไปเรื่อยๆ ก็ถึง เรือนเก่าหลังนี้โดดเด่นมาก ใครเจอก็ต้องสะดุดตาทันที ตัวเรือนไม่เป็นสองชั้น ใช้ไม้สักสร้างทั้งหลัง หลังคาทรงปั้นหยาทั้งหมด เป็นสถาปัตยกรรมแบบสมัยรัชกาลที่ 6 มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้วัสดุตกแต่งยังคงรักษารูปแบบของเก่าไว้ เรือนหลังนี้สร้างเสร็จมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2475 ถือว่าให้ความรู้สึกที่มีมนตร์ขลังมากเลยทีเดียวค่ะ
เรือนหลังนี้ มีความสําคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย เพราะเป็นสถานที่เก็บหลักฐาน เอกสารสําคัญในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปรากฏรูปถ่ายของหลวงพรหมภักดี ต้นตระกูลตะเวทิกุล บรรพชนคนสําคัญของชาวเกาะหมาก เดิมที หลวงพรหมภักดีได้อพยพครอบครัวมายังเกาะหมาก หลังจากเมืองปัจจันตคิรีเขตร ตกเป็นของฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2447 โดยซื้อที่ดินจากเจ้าสัวเส็ง (พระประเสริฐวานิช) และใช้ที่ดินปลูกทําสวนมะพร้าว ซึ่งเป็นอาชีพสําคัญของคนเกาะหมากนับตั้งแต่นั้นมา
หากมีแผนที่เกาะหมาก กับมอร์เตอร์ไซค์ หรือจักรยานสักคัน ก็สามารถขี่เที่ยวรอบเกาะหมากได้ทั่ว แถมยังได้แวะไหนก็ได้อีกด้วย แวะพูดคุยกับชาวบ้าน แวะเข้าไปดูสวนยาง แวะไปดูลูกหมากสีสวยจับใจ แวะไปดูทิวสนพริ้วลมทะเล สิ่งเหล่านี้ เป็นความเพลินใจอย่างที่สุดแล้ว เกาะเงียบๆ แห่งนี้ รังสรรค์ความชิลล์ให้แก่เราได้งายๆ ถนนดินสีแดง ดูเหมือนว่าจะขับขี่ลําบาก แต่เมื่อลองขี่กันดูกลับไม่ลําบากอย่างที่คิด ขับขี่คลองตลอดทุกเส้นทาง แล้วยังรู้สึกเนียนๆ ไปกับคนท้องถิ่น มีเรื่องแปลกอยู่ตรงที่ว่า คนท้องถิ่นส่วนใหญ่มักจะเดินทางบนเกาะด้วยการขี่มอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ แต่ทว่า นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จะใช้ระบบเดินด้วยขาทั้งสอง แม้กระทั่งกลางคืน พวกเรายังเห็นนักท่องเที่ยวใช้สองเท้าเดินไปตามทางลูกรังที่มืดสลัว อ้อ! ที่นี่ปลอดคนมิจฉาชีพด้วยนะ ไม่ต้องห่วง
อีกหนึ่งสถานที่คุณต้องมาเยือนให้ได้ นั่นก็คือ วัดเกาะหมาก ทั้งความร่มรื่นและความสงบ บ่มเพาะให้จิตใจสงบนิ่ง และฟังเสียงของธรรมชาติรอบตัว เพียงเข้ามาในเขตวัด ก็รู้สึกถึงความสุขสงบอย่างบอกไม่ถูกเลยทีเดียว และที่ตั้งของวัด อยู่บนที่สูง สามารถมองทิวทัศน์ของทะเลงามแถบนี้ได้ด้วย ถือเป็นจุดชมวิวที่น่าชม วัดเกาะหมากสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2490 เพื่อใช้ประกอบพิธีทางศาสนาสําหรับชาวบ้านนั่นเอง
•••••••••••••••••••••
หากคุณไม่เร่งรีบในการเดินทาง หรืออาจจะมีสัมภาระมาเยอะ มีเรือไม้ ซึ่งจะวิ่งช้า แต่เป็นเรือลําใหญ่คล้ายกับเรือประมง เรือจะออกที่ท่าเรือแหลมงอบ แต่จะไปจอดส่งลูกค้าที่ท่าเรืออ่าวนิด ของเกาะหมาก โดยจะออกจากฝั่งตราด เวลา 15.00 น. จากท่าเรือแหลมงอบมาที่เกาะหมาก และขากลับ ออกจากท่าเรืออ่าวนิดเวลา 08.00 น. ค่าบริการเรืออยู่ที่ราคาประมาณ 300 บาทต่อท่าน ต่อเที่ยว และใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงค่ะ
เนื้อหาโดย Dodeden.com