ดาราสาว ทราย เจริญปุระ แม่ป่วยในวัยชราด้วยโรคสมองเสื่อม โดยกว่า 2 ปีกับคำถามที่วกไปเวียนมาที่ ทราย เจริญปุระ ค้างคาและหาทางออกไม่ได้ ด้วยความไม่เข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงของแม่ จากแม่ที่เก่ง สามารถดูแลตนเองได้ ไม่ชอบให้ใครไปยุ่งด้วย กลายมาเป็นแม่ที่พูดแล้วไม่เข้าใจในเหตุผล แม่ที่เรียกร้องความสนใจ อยากให้ลูกไปคลอเคลียตลอดเวลา แม่ที่ใช้ถ้อยคำกดดันลูกบ่อยครั้ง
เช่น ถ้าไม่กลับบ้านจะฆ่าตัวตาย , ทำอย่างนี้แสดงว่าเธอไม่กตัญญู ทำให้ทรายเครียดมาก จนร่างกายแสดงออกปะทุเป็นผื่นขึ้นตามผิวหนัง หมอต้องสั่งให้แยกออกจากแม่ มาติดตามกันว่าทรายจะสามารถพบคำตอบในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของแม่ได้หรือไม่
โดยทรายเผยว่า ขณะออกไปทำงาน แม่ก็โทรบอกจะฆ่าตัวตาย จากอาการแม่ป่วยโรคสมองเสื่อม จนมีอาการเปลี่ยนแปลง บางครั้งมีข้อเรียกร้องจนรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกายลูก เจ้าตัวมาขอคำปรึกษา วิธีการรับมือกับ “โรคสมองเสื่อม” ของแม่ จากผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญ
ขณะที่ ผู้สื่อข่าวโดดเด่นดอทคอม รายงานว่า วันนี้ ( 30 เมษายน 2560) นาวาอากาศตรีนายแพทย์บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่าขณะนี้ประเทศไทยเป็นสังคมผู้สูงวัย ผู้สูงอายุมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุดในปี 2557 ไทยมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 10 ล้านกว่าคน คิดเป็นร้อยละ 14.9 ของประชากรทั้งประเทศ
โดยปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุไทยที่น่าห่วงขณะนี้คือโรคสมองเสื่อม ทำให้เกิดอาการหลงลืม การช่วยเหลือตัวเองลดลง ผลสำรวจโดยการตรวจร่างกายของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขล่าสุดครั้งที่ 5 ในพ.ศ. 2557 พบผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปเป็นโรคนี้ร้อยละ 8 หรือประมาณ 800,000 กว่าคนทั่วประเทศ ยิ่งอายุมากยิ่งพบสูงขึ้น
ซึ่งโรคนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ต้องพึ่งพิงการดูแลจากครอบครัวและสังคม กำลังเป็นปัญหาใหญ่ทั้งระดับประเทศและระดับโลก สาเหตุที่ทำให้ผู้สูงอายุไทยเป็นโรคสมองเสื่อมมาก
ส่วนหนึ่งเกิดจากโรคทางกายเช่นเส้นเลือดในสมองตีบแตกหรืออุดตัน ส่วนหนึ่งเกิดต่อเนื่องจากการป่วยเป็น โรคซึมเศร้า และปัจจัยเสริมอีกอย่างเกิดมาจากสมองของผู้สูงอายุขาดการใช้งานอย่างต่อเนื่อง ทำให้เซลล์สมองส่วนที่เคยใช้งานประจำเกิดการลีบและฝ่อตัว ซึ่งถือว่าเป็นภัยเงียบและประการสำคัญขณะนี้สังคมไทยยังขาดความรู้ความเข้าใจปัญหาสมองเสื่อมของผู้สูงอายุ เข้าใจว่าเป็นความเสื่อมธรรมดาที่เกิดขึ้นตามวัย ประเด็นที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดก็คือเรื่องค่านิยมลูกหลานไทยที่ปลูกฝังสืบทอดกันมา
ขอแนะนำให้ลูกหลานกระตุ้นให้ผู้สูงอายุทำกิจกรรมที่ใช้สมองใช้ความคิดความจำบ่อยๆเช่นเดียวกับการออกกำลังกายฝึกการใช้กล้ามเนื้อ เช่น ออกกำลังกายตามความเหมาะสม เล่นไพ่ฝึกนับตัวเลข รำวง ใช้นิ้วเท้าปั้นกระดาษให้เป็นลูกบอลกลมๆขณะนั่งดูทีวี เป็นต้น ควรส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มวัยเดียวกันและให้ผู้สูงอายุทำงานตามศักยภาพที่มีอยู่
โดยในปี 2560 นี้ กรมสุขภาพจิตเร่งพัฒนาระบบบริการเน้นหนัก 2 เรื่องใหญ่ ได้แก่ การพัฒนาโปรแกรมสร้างสุขผู้สูงอายุ 5 มิติ ได้แก่สุขสบาย สุขสนุก สุขสง่า สุขสว่างและสุขสงบป้องกันโรคซึมเศร้าและโรคสมองเสื่อม
ขณะนี้ขยายใช้กับผู้สูงอายุทุกชุมชนแล้ว และมอบให้โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ จ.สุราษฎร์ธานี วิจัยและพัฒนาเครื่องมือตรวจคัดกรองโรคสมองสื่อมที่มีปัญหามาจากด้านจิตใจและพฤติกรรมควบคู่กันเป็นต้นแบบของประเทศ เพื่อให้ผู้สูงอายุที่ป่วยเข้าถึงบริการที่เร็วที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาผู้ป่วยเข้าถึงบริการร้อยละ 10-15 เท่านั้น ขณะนี้ใกล้แล้วเสร็จสมบูรณ์ คาดว่าจะใช้ทั่วประเทศในปลายปีนี้