เมื่อวันที่ 15 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมงานโฆษกตำรวจ ได้เผยแพร่ข้อความชี้แจงเกี่ยวกับคดี กระทำชำเราเด็ก สภ.ด่านช้าง โดยระบุว่าในโซเชียลเน็ตเวิร์กขณะนี้ปรากฏข้อความเป็นไปในทางที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่สำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น จึงขอชี้แจงว่า คดีนี้ พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความร้องทุกข์ และออกหมายจับ ผู้ต้องหา พร้อมกับจับกุมตัวได้แล้ว จากการสอบสวน ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ ปัจจุบัน ได้ฝากขังผู้ต้องหา ต่อศาลจังหวัดสุพรรณบุรี คดีอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม
ด้าน พ.ต.อ.นิวัติ มาตะราช ผกก.สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ ขึ้นเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2559 ด.ญ.เอ (นามสมมติ)อายุ14ปี หายตัวไป ต่อมาวันที่ 14 พฤศจิกายนมารดาของด.ญ.เอ เข้าใจว่าบุตรสาวหายตัวไปตำรวจก็ร่วมกันตามหาโดยมีนายธี(นามสมมติ) เพื่อนชายคนสนิทของเด็กหญิงเอร่วมค้นหาด้วยกระทั่งในวันนั้นก็พบเด็กหญิงเอที่โต๊ะสนุกเกอร์ ในพื้นที่อำเภอด่านช้าง โดยเด็กหญิงเอมีท่าทางอิดโรย มีอาการคล้ายมึนเมา จึงนำไปตรวจร่างกายเพื่อหาสารเสพติดในร่างกายที่โรงพยาบาลตอนนั้นก็สงสัยว่าโดนวางยาหรือไม่ แต่ผลตรวจก็ไม่พบสารเสพติดใดๆ สอบสวนในขณะนั้นเด็กเอให้การว่าก่อนจะมาอยู่ที่โต๊ะสนุกเกอร์ได้ไปที่บ้านของนายไก่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ และให้การว่านายไก่กระทำชำเรา ตอนนั้นได้ตรวจร่างกายหาร่องรอยการข่มขืน ได้เก็บหลักฐานยืนยันว่านายไก่ เป็นผู้ก่อเหตุ นำไปสู่การจับกุมดำเนินคดีนายไก่ ตอนนั้น เด็กหญิงเอให้การว่าถูกนายไก่กระทำเพียงผู้เดียวเท่านั้น ญาติก็ไม่ได้ติดใจใดๆ
กระทั่งต่อมามารดาของเด็กหญิงเอเข้าร้องเรียน ตนไม่ทราบเหตุผล แต่ช่วงเช้าวันนี้ตนได้เดินทางไปที่บ้านของเด็กหญิงเอ เพื่อสอบถามมารดาว่า ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือหรือคุ้มครองหรือไม่ รวมถึงประเด็นที่ติดใจและสงสัยว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่า 1ราย แต่มารดาของเด็กหญิงเอก็ไม่ได้ ให้ข้อมูลถึงผู้ต้องสงสัยที่อ้างว่ามีมากกว่า 1คน แต่อย่างใด โดยตำรวจสภ.ด่านช้างรับจะดูแลความปลอดภัยให้หลังจากมารดาและญาติของเด็กหญิมีความกังวล ภายหลังนายไก่ได้รับการประกันตัว
ผกก.สภ.ด่านช้าง กล่าวว่า ประมาณวันที่ 17 ถึง 18 เมษายนนี้ตนจะเข้าไปพบเด็กหญิงเอ เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมตามที่มารดาของเด็กหญิงเอกล่าวอ้างรวมทั้งสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากมารดาของเด็กหญิงเอด้วย อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการ ทำคดีในตอนแรกดำเนินการไปตามคำให้การและพยานหลักฐานที่ปรากฏ และการทำคดีก็ไม่มีผู้มีอิทธิพลรายใดเข้ามาเกี่ยวข้อง แทรกแซงการทำคดี ไม่มีของลูกหลานผู้มีอิทธิพล มาเกี่ยวข้องรวมทั้งไม่พบว่ามีลูกของตำรวจร่วมก่อเหตุตามที่มีการกล่าวอ้างในโซเชียลมีเดีย ยืนยันว่าเมื่อมารดาของเด็กหญิงเอติดใจก็จะตรวจสอบและดำเนินการให้ความเป็นธรรมอย่างตรงไปตรงมา
