อยู่เบื้องหลังการปลุกปั้นซุป’ตาร์ดังๆประดับวงการบันเทิงมานับไม่ถ้วน ไล่ตั้งแต่ “อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ”, “ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ”, “เวียร์-ศุกลวัฒน์ คณารศ” มาถึง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” และ “มาริโอ้ เมาเร่อ” จนขึ้นหิ้งเป็นนักปั้นมือทองระดับท็อปของเมืองไทยที่มีตาคมดุจเหยี่ยว สำหรับ “เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร” กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่ง่ายๆ แต่การจะรักษาบัลลังก์ความเป็นหนึ่งไว้กลับยากยิ่งกว่า โดยเฉพาะในโลกมายาที่มีแต่ความดราม่าใส่หน้ากากเข้าหากัน
เอ ศุภชัย ยอมรับว่า การต้องหานักแสดง ให้ตรงกับงานค่อนข้างเป็นงานที่เหนื่อยและ ทุ่มทุนไปเยอะ อย่างตอนที่ทำงานกับ “น้องเวียร์” เราจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินให้น้อง 1 ปีเต็มๆ เพื่อไม่ให้เสียการเรียน “เอ” รับปากพ่อแม่น้องว่าไม่ต้องห่วงนะครับ จะไม่ให้น้องต้องเสียการเรียนแน่นอน ยุคนั้นค่าตัวเวียร์สตาร์ตตอนหนึ่งแค่หมื่นห้า ละครเรื่องหนึ่งได้ 2-3 แสนบาท
หลายคนมีแววว่าใช้ได้ ส่งเรียนการแสดง แก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ รวมไปถึงการพาไปศัลยกรรม เพราะช่วง หลังบุคลากรผลิตไม่ทันป้อนวงการ คือเกือบสวยเกือบหล่อแล้วทำอีกนิดหน่อยก็ใช้ได้ ก็ต้องใช้วิธีเร่งรัดบ้าง พาน้องๆไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี ลงทุนจ่ายให้หมด
บางคนก็ลงทุน 3-4 ล้านบาท อันนี้ไม่รวมค่าส่งเรียนนะ แค่ทำศัลยกรรมหน้าก็จ่ายไปหลายแสนแล้ว เวลาเด็กมาอยู่ที่บ้าน ก็ต้องเลี้ยงข้าวทุกมื้อ ค่าน้ำค่าไฟก็จ่ายหมด ถ้าหน้าตาไม่โดนต้องพาไปดัดฟัน ก็จ่ายอีกเกือบ 2 แสนบาท ถ้ายังไม่หล่อไม่สวยก็ต้องพาไปเกาหลี ที่ต้องเป็นเกาหลีเพราะอยากได้ความแปลก
ถ้าเป็นไปได้จะไม่พาใครไปเกาหลีเลย เพราะค่าใช้จ่ายสูงมาก…ตกคนละล้าน!! ทำจนหมอเกาหลีซื้อเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวได้แล้วและส่งการ์ดมาขอบคุณ นอกจากนี้ก็ต้องเตรียมความพร้อมทุกอย่างให้เด็ก ทั้งเรื่องฝึกบุคลิกภาพ เข้าคลาสเรียนร้องเพลง คลาสสอนแอ็กติ้ง ฟิตหุ่นออกกำลังกาย และฝึกระเบียบวินัย ซุป’ตาร์ทั้งหลายโดนเราสาดน้ำปลุกให้ตื่นมาแล้ว
ดาราส่วนใหญ่ต้องทำศัลยกรรมแก้ไขจุดไหน
ทำตา!! เราชอบคนตาเซ็กซี่ ดูมีเสน่ห์เจ้าชู้นิดหนึ่ง ถ้าตาไม่เซ็กซี่มันไม่ดึงดูด “เอ” เป็นคนออกแบบตาเซ็กซี่เอง เป็นการทำตาให้เป็นเหยี่ยว ให้หัวตาเป็นสละอิ และกรีดลึกเข้าไปข้างใน เชื่อไหมว่าอนาโตมีคน แค่เปลี่ยนนิดเดียว ความรู้สึกที่เราเห็นหน้าเค้าก็เปลี่ยนแล้ว บางคนมองเผินๆเหมือนอั้มเหมือนณเดชน์
แต่ทำไมเรามองหน้าเค้าแล้วไม่รักเค้าล่ะ เพราะอนาโตมีของใบหน้าจะถ่ายทอดมาที่เซลล์สมองคนดู แล้วจะบอกว่าเรารู้สึกยังไงกับคนนั้น เรื่องโหนกแก้มก็สำคัญมาก ถ้าโหนกแก้มเตี้ยไปจะดูเป็นกระดาษจอแบน เวลาโดนแสงเบาซ์เข้าหน้า มันจะดูโทรมเป็นคนจน
ฉะนั้น ต้องยกโหนกนิดหนึ่งให้ดูรวย แต่โหนกต้องไม่สูงมากเกินไป เวลาไปเกาหลีจะขนเด็กไปอยู่กันสองอาทิตย์ ทำศัลยกรรม รอตัดไหม และพักฟื้น จนถูกแซวว่า เป็นหัวหน้าทัวร์รถคว่ำ!! เพราะเจอ ตำรวจเกาหลีตรวจรถทัวร์ถามว่าทำไมคนทั้งรถพันหน้าหมด เราตอบว่าพอดีรถคว่ำ!! แล้วทำไมรอดอยู่คนเดียว (ชี้มาที่เอ) เราบอกอ๋อพอดีนั่งข้างหลัง
ที่มาภาพ : Sanook
ที่มาภาพ : Sanook
ที่มาภาพ : Sanook
สมัยนี้ดาราหลายๆคนออกมาเปิดใจ ว่าเคยรับการศัลยกรรมมาก่อน บางคนก็มาศัลยกรรมในช่วงที่อยู่ในวงการแล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะงานในวงการบันเทิงที่ต้องใช้หน้าตา ต้องมีการดูแลตัวเองเพื่อให้ได้งานเป็นสิ่งสำคัญ
แต่งานนี้ไม่รู้ว่า ดาราในสังกัดของ “เอ ศุภชัย” คนไหนบ้างที่ถูกพาตัวบินไปเกาหลีอีกที่เรายังไม่รู้