ที่มา: voicetv

นักวิจัยชี้ กัญชาไม่ใช่ทุกชนิดที่สามารถนำมาใช้เป็นยาได้ เพราะถ้าเจอกัญชาชนิดรุนแรงอาจทำลายใยประสาทสมอง ส่งผลต่อการสื่อสารระหว่างสมองซีกขวากับซีกซ้ายได้

438260

ผลการศึกษาร่วมของสถาบันคิงส์คอลเลจ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ กับมหาวิทยาลัยในกรุงโรม ประเทศอิตาลี แสดงความเป็นกังวลต่อผู้สูบกัญชาส่วนใหญ่พบว่าการสื่อสารระหว่างสมองซีกขวากับซีกซ้ายบริเวณเนื้อสีขาวจะมีประสิทธิภาพน้อยลงกว่าผู้ที่สูบน้อยกว่าหรือไม่สูบเลย

โดยทั้ง 2 สถาบันทำการสแกนสมองผู้ที่สูบกัญชาสายพันธุ์ที่มีสาร THC หรือเตตราไฮโดรแคนนาบินอล มากกว่า 10-14% กับผู้ที่ไม่สูบกัญชา หรือสูบกัญชาที่มีสาร THC อยู่ราว 2-4 % พบว่าผลสแกนสมองของกลุ่มที่สูบกัญชาแบบหนักๆ จะเห็นว่าเส้นประสาทในสมองถูกทำลาย และอาจส่งผลให้การสื่อสารระหว่างสมองซีกขวากับซีกซ้ายหมดประสิทธิภาพไป

โดยนักวิจัยกล่าวว่า หากดูจากผลสแกนสมองส่วน corpus callosum (ส่วนแข็ง) จะเห็นความแตกต่างในส่วนของสมองเนื้อขาว (บริเวณสีขาวของสมองและไขสันหลัง เป็นบริเวณที่มีใยประสาทอยู่จำนวนมาก) ของคนสูบกัญชาชนิดรุนแรงกับคนที่ไม่สูบหรือสูบแต่น้อย จะเห็นได้ว่าสมองของคนที่ไม่สูบกัญชา หรือสูบแต่น้อยใยประสาทจะดูเป็นปกติมากกว่าของคนที่สูบกัญชาอย่างหนัก

และจากผลการสแกนสมองของผู้ป่วยโรคจิตระยะต้น ซึ่งเกิดจากกัญชาชนิดรุนแรง จำนวน 56 คน จะพบว่าในสมองเนื้อขาวจะมีสารแคนนาบินอยด์อยู่มากกว่าผลสแกนสมองของอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี ไม่เคยสูบหรือสูบกัญชาแต่น้อยจำนวน 43 คน

ผลการวิจัยที่ได้นั้น บอกได้ว่าต่อไปนี้นักวิจัยต้องเก็บรวบรวมข้อมูลและข้อสำคัญต่างๆ เพื่อนำไปใช้ในการคำนวนหาความถี่ของการใช้ และชนิดของกัญชาที่เหมาะสมสำหรับนำมาใช้เพื่อการรักษา เพราะถ้าเจอกัญชาชนิดร้ายแรงอาจส่งผลร้ายแรงจนมีปัญหาด้านสุขภาพจิตได้

เรื่องน่าสนใจ