ทีมศึกษาวิจัยด้านการแพทย์นำโดย นพ.ดาริอุช โมซาฟฟาเรียน จากสำนักนโยบายและโภชนาการวิทยา ฟรีดแมน ในสังกัดมหาวิทยาลัยทัฟท์ส ในนครบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา ระบุว่า การส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคไขมันดีที่พบในน้ำมันมะกอกหรือปลา สามารถป้องกันการเสียชีวิตของประชาชนได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อปี ทั้งนี้ หลังจากผลการศึกษาล่าสุดพบว่ามีผู้เสียชีวิตจากอาการโรคหัวใจซึ่งเกิดจากการได้รับไขมันที่ดีไม่เพียงพอนั้นมีจำนวนมากกว่าผู้ที่เสียชีวิตจากการบริโภคไขมันอิ่มตัวมากเกินไปถึงเกือบ 3 เท่าตัว
การศึกษาวิจัยดังกล่าวใช้วิธีการตรวจวิเคราะห์ข้อมูลด้านโภชนาการและอัตราการเสียชีวิตของประชาชนจากโรคหัวใจใน 186 ประเทศทั่วโลกในปี 2010 โดยทีมวิจัยพบว่า ส่วนหนึ่งของผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจในปีนั้น จำนวน 711,800 ราย เป็นการเสียชีวิตเนื่องจากบริโภคไขมันที่ดีต่อสุขภาพ หรือไขมัน “โอเมกา-6 โพลีอันแซททูเรต” น้อยเกินไป คิดเป็นสัดส่วน 10.3 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจทั้งหมด
ในขณะเดียวกันมีผู้เสียชีวิตจากการบริโภคไขมันอิ่มตัว หรือไขมันแซททูเรต มากเกินไปเพียง 250,000 คน หรือ 3.6 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่ตายด้วยโรคหัวใจทั้งหมด คิดเป็นเพียง 1 ใน 3 ของกลุ่มแรกเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการส่งเสริมให้บริโภคไขมันโอเมกา-6 โพลีอันแซททูเรต ให้มากขึ้นจนถึงระดับพอเพียง จะช่วยลดปริมาณการเสียชีวิตจากโรคหัวใจได้มากกว่า การส่งเสริมให้ลดการบริโภคไขมันอิ่มตัว
ในเวลาเดียวกัน ทีมวิจัยพบว่ามีผู้เสียชีวิตเพราะบริโภคไขมันทรานส์ หรือไขมันที่ผ่านการแปรรูปมากเกินไป ในปี 2010 สูงถึง 537,200 ราย โดยไขมันทรานส์คือไขมันที่ได้จากการแปรรูปและที่เกิดจากกระบวนการปรุง อาทิ ปิ้ง ย่าง หรือทอด เป็นต้น สำหรับ “โอเมกา-6 โพลีอันแซททูเรต” นั้นพบได้ในปลา, ถั่ว และน้ำมันพืชต่างๆ อาทิ น้ำมันมะกอก เป็นต้น