เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ – นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาแดนมังกรหารายได้พิเศษเงินดี ขายไข่จากรังไข่ในร่างกายให้คู่สามีภรรยา ที่ต้องการมีบุตร ในตลาดมืด ที่ส่อเค้าจะเติบโต หากรัฐบาลจีนไม่มีมาตรการป้องกันโดยด่วน
จากรายงานของสถานีโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน หรือซีซีทีวี นายหน้ารายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า ผู้ขายไข่ ซึ่งบางคนยังเรียนชั้นมัธยมศึกษาอยู่นั้น จะได้รับเงินตอบแทนหลายหมื่นหยวน แต่หญิงสาวเหล่านี้ไม่ได้รับข้อมูลที่แท้จริงเกี่ยวกับความเสี่ยง ที่อาจได้รับจากการใช้ยา เพื่อสร้างไข่อุ้มบุญ
“เด็กสาวที่เราเล็งจะมีอายุราว ๆ 20 เพราะเป็นอายุที่ผู้หญิงมีไข่ที่ดีที่สุด” นายหน้าระบุกับซีซีซีทีวี
สถานีโทรทัศน์แห่งนี้รายงานต่อไปว่า ในการนำไข่ออกมาจากร่างกายนั้น ใช้เพียงยาและการผ่าตัดนิดหน่อย ซึ่งกินเวลาประมาณ 20 วัน เมื่องานสำเร็จ หญิงสาวเหล่านี้จะได้รับเงินค่าจ้างราว 30,000-100, 000 หยวน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับหน้าตาและระดับการศึกษาด้วย
“ครั้งหนึ่งเธอจะได้เงินหลายหมื่นหยวนเชียวนะ แล้วทำไมถึงจะไม่เอาซะล่ะ” นี่เป็นวิธีที่นายหน้าหลอกล่อ
ทั้งนี้ กฎหมายบนแผ่นดินใหญ่ห้ามการจ่ายเงินชดเชยแก่หญิง ที่บริจาคไข่ แม้หญิงคนนั้นสามารถบริจาคไข่ได้ถึง 3 ครั้งก็ตาม
สูติแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งในฮ่องกงเตือนว่า การได้ไข่แต่ละครั้งต้องฉีดยาเข้าไป เพื่อกระตุ้นให้รังไข่ทำงาน ก่อนผ่าตัดเพื่อนำไข่ออกมา กระบวนการนี้อาจสร้างความเสียหายแก่รังไข่ในระดับต่าง ๆ กัน ซึ่งขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้ยา
โดยกรณีของหญิงสาวนั้น การให้ยาจำนวนมากอาจทำให้ร่างกายสามารถสร้างไข่ได้มากกว่า 20 ฟองในแต่ละครั้งทีเดียว ซึ่งจะมีผลให้รังไข่ขยายใหญ่ขึ้น ในบางกรณีอาจทำให้ตกเลือด หรือแม้กระทั่งเกิดเนื้อร้าย ซึ่งจะทำให้หญิงผู้นั้นไม่สามารถมีบุตรได้
จากรายงานของหนังสือพิมพ์พีเพิ่ลเดลี่เมื่อปีที่แล้ว อัตราภาวะมีบุตรยากของประชาชนในแผ่นดินใหญ่เพิ่มสูงจากร้อยละ 3 เมื่อ 20 ปีก่อน เป็นร้อยละ 12.5-15 โดยในปี 2552 และชาวจีนกว่า 50 ล้านคนถูกวินิจฉัยว่า มีภาวะมีบุตรยาก
ซีซีทีวียังระบุว่า สำนักงานรับจัดหาไข่อุ้มบุญในเมืองก่วงโจวนั้นเรียกราคาคู่สามีภรรยาสูงถึง 1 ล้าน 2 แสนหยวน หากต้องการได้ลูกชาย โดยสัญญาซื้อขายนี้ครอบคลุมทั้งการหาไข่ การหาหญิงรับตั้งครรภ์แทน และการทำแท้ง หากพบว่า ตัวอ่อนเป็นเพศหญิง
สนนราคาต่ำสุดคือราว 400,000 หยวนในกรณีไม่เจาะจงว่า ต้องเป็นเพศชาย
อ้าย เซี่ยวหมิง อาจารย์ด้านสตรีศึกษาในเมืองก่วงตงเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งเร่งหามาตรการควบคุมยับยั้งตลาดมืดค้าไข่อุ้มบุญ ก่อนที่มันจะก่อความเสียหายและเป็นอันตรายต่อสตรีไปมากกว่านี้ มีหญิงคนหนึ่งยอมขายไข่ เพื่อนำเงินไปชำระหนี้บัตรเครดิต
โดยไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แล้วในจีน ที่ร่างกายมนุษย์กลายเป็นสินค้าอย่างหนึ่ง และจะไปห้ามธุรกิจอุ้มบุญก็เป็นไปไม่ได้ เนื่องจากเทคโนโลยีช่วยการมีบุตรกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตลาดมืดที่กำลังขยายตัวนี้ก็จำเป็นต้องมีระบบของกฎหมายอย่างครอบคลุมมากำกับดูแล ซึ่งอยู่บนพื้นฐานของการปรึกษาร่วมกันระหว่างผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และด้านอื่น ๆ
อ้ายชี้ว่า กรณีการรับจ้างอุ้มบุญที่เกิดขึ้นเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า หากรัฐบาลยังรีรอไม่ตรากฎหมายออกมาจัดการกับธุรกิจเถื่อน ปัญหาการละเมิดสิทธิของเด็กและสตรี หรือปัญหาการขาดความสมดุลทางเพศในจีนก็จะไม่มีวันได้รับการแก้ไขอย่างแน่นอน
