นับว่าประสบความสำเร็จไปอีกขั้นแล้ว กับการออกซิงเกิ้ลค่ายเพลงดังที่เกาหลี เพราะแฟนคลับให้การตอบรับดี และชื่นชอบเอามากๆ ล่าสุดกลับมาทำงานที่ไทยได้เห็นหน้าเห็นตากันบ่อยขึ้น เลยขออัพเดตผลงานสักหน่อย เจอ “นัททิว” ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม ที่งาน “เซิร์ค ดู โซเลย์ มนตรามายาพิศวง คีดาม ไลฟ์ อิน แบงค็อก 2015” เลยสอบถามได้ความดังนี้
“สำหรับผลงานที่เกาหลี ตอนนี้ก็เป็นปีที่ค่ายทรูแฟนเทเชียกับค่ายซีเจ คุยกันว่า คิวหลักจะอยู่ที่ไทย จะสลับกัน ปีที่แล้วคิวหลักอยู่ที่เกาหลี ปีนี้แฟนๆ ก็จะเห็นนัทรับงานที่ไทยเยอะขึ้น ถ้าเกิดว่าจะไปเกาหลีเพื่อจะออกซิงเกิ้ลอีก จะเป็นคิวช่วงประมาณปลายปีไปเลย ตอนนี้มีผลงานคิวสุดท้าย ที่จะอยู่ที่ไทยก็คือละครเวที “รอยดุริยางค์” ที่จะต้องเล่นเดือนสิงหาคม เพราะฉะนั้นตอนนี้จนถึงสิงหาคมจะต้องอยู่ที่ไทยไปตลอดเลย
งานที่เกาหลีล่าสุดก็ออกซิงเกิ้ลครบสองเพลง ตอนแรกว่าจะปล่อยเพลงเดียว แต่ทำเกินมาแล้วก็เลยครบเลย ปีนี้ถ้าจะทำเพลงอีกค่ายทรูแฟนเทเชียกับ ซีเจ ต้องคุยกันอีกลอตหนึ่ง เวลางานของผม จะทำเป็นโปรเจกท์ เขาจะทำสัญญาร่างมาว่า โปรเจกท์นี้กี่ซิงเกิ้ลอะไรแบบนี้”
ถามต่อว่า ได้ไปทำงานเป็นนักร้องที่ประเทศเกาหลี เลยถูกจับตามองเรื่องการทำศัลยกรรมเป็นธรรมดา ซึ่งหลายคนสังเกตเห็นว่า หน้าดูเปลี่ยนไป ได้ไปทำอะไรมาหรือเปล่า เจ้าตัวยืนยันหนักแน่นว่า ไม่ได้ทำจริงๆ แอบหวั่นว่าจะโดนมองเป็นพวกเสพติดศัลยกรรม
“ได้ยินข่าวมาเยอะมาก อันนี้ขออนุญาตชี้แจงเลย มีโอกาสได้เห็นข่าวเหมือนกัน อันดับแรกคือ มันไม่มีการสั่งห้ามอะไรแบบนี้เกิดขึ้นจริงๆ เพราะค่ายที่เกาหลีเขาไม่ได้ให้ผมทำ แต่การที่ไม่ให้ทำไม่ได้แปลว่าสั่งห้ามไม่ให้ทำ คีย์เวิร์ดมันไม่เหมือนกัน
โดยส่วนตัวถามว่า ทำศัลยกรรมมาไหม ขอบอกเลยด้วยความสัตย์จริงว่า ไม่ได้ทำเลย พยายามจะให้สัมภาษณ์แบบนี้ หลายๆ คนพอผมกลับมาก็ถามเลยว่า นัททิวกลับมาคราวนี้หน้าเล็กลงเรียวขึ้น คือไม่ใช่แค่หน้า แต่ทั้งตัวผมลด เพราะน้ำหนักลดลงจริงๆ ตอนนี้หนัก 62 กก. ตอนก่อนไปเกาหลีหนักประมาณ 70 กก. ยืนยันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ได้ทำหน้า
นอยด์ไหม ก็มีนะ ตอนแรกไม่อะไร เพราะรู้สึกเป็นเรื่องธรรมดา แต่พอเริ่มแชร์กันหนัก มันมากไปไหม คือไม่กลัวอะไรหรอก แต่ไม่อยากให้ถูกมองว่าเป็นพวกเสพติดศัลยกรรมแค่นั้นเอง คำว่าสั่งห้ามมันเหมือนบอกให้หยุดเดี๋ยวนี้นะ เพราะว่าทำมากเกินไป แต่ตอนหลังก็โอเค พี่สื่อมวลชนมาถามก็ตอบไป”