เมื่อเวลา 11.00 น วันที่ 11 มิถุนายน 2560 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก สาวประเภทสองลูกครึ่ง ชื่อ.สาว แอนนา (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี สาวประเภทสองลูกครึ่งไทย เยอรมัน อาชีพ รับจ้างเดินแบบทั่วไปทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ ได้นำหลักฐานเอกสารเป็นใบเสร็จรับเงินจากคลินิกเสริมความงามชื่อดัง ซึ่งมีสาขาจำนวนมาก โดยสาขาที่ร้องเรียน คือสาขาที่เชียงใหม่ พร้อมกันนั้น ได้นำผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ พร้อมขอมูลจดทะเบียนมาแสดง พร้อมกับระบุว่า หลังจากฉีดเกิดเจ็บที่ช่วงแก้มและมุมปาก จึงจะร้องเรียนเรื่องผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
สาวแอนนา (นามสมมุติ) สาวประเภทสอง ลูกครึ่ง ไทย เยอรมัน ได้เปิดเผยว่า ตนนั้นเป็นลูกครึ่งไทยเยอรมัน มีอาชีพรับจ้างเดินแบบทั่วไปทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ตนนั้นด้วยความรักสวยรักงามใจนั้นเป็นหญิง ได้ไปทำศัลยกรรมทุกส่วนของร่างกายไว้จนถือได้ว่าเป็นผู้หญิง 100 เปอร์เซ็นต์ ต่อมาตนต้องการไปฉีดโบท๊อกซ์ ที่บริเวณใบหน้าเนื่องจากหน้าเริ่มมีริ้วรอย เลือกสถาบันเสริมสวยความงามที่่น่าเชื่อถือระดับประเทศ ติดต่อฉีดโบท๊อกซ์ ในขนาด 50 ยูนิต ยี่ห้อหนึ่งจากเกาหลี ในราคา 8,000 กว่าบาท โดยไปฉีดเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 60 ที่ผ่านมา และช่างเป็นความโชคดีที่ตนได้ขอขวดและกล่องโบท๊อกซ์ มาด้วย เพื่อจะไปยืนยันกลับเพื่อน และจะไปแนะนำให้เพื่อน ๆ ต่อว่ายี่ห้อนี้ดีที่สุดตามคำบอกเล่า
“แต่ปรากฏว่าเมื่อมาถึงที่บ้าน ตนรู้สึกหน้าตนเริ่มตึง โดยตอนแรกก็เข้าใจอย่างที่หมอบอกหน้าจะตึง ก็เข้าใจแต่ปรากฏว่า พอเวลาผ่านไปหน้าของตนกลับเริ่มรู้สึกเจ็บแสบที่บริเวณช่วงแก้ม และมุมปากมีอาการเริ่มใจเสีย ได้โทรศัพท์สอบถามเพื่อน ๆ ที่เคยฉีดโบท๊อกซ์ ก็ได้รับทราบมาว่า มีโบท๊อกซ์ ไม่ได้มาตราฐาน ไม่มี เลขทะเบียน อย.หลายยี่ห้อ ให้ระวัง”
สาวแอนนา (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนมีความกังวลใจมากจึงได้นำกล่องผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ดังกล่าวเข้าไปตรวจสอบในโซซียลและเว๊ปไซต์ของ อย. ซึ่งตรวจพบว่าไม่มีเลขที่ดังกล่าว และไม่มีการลงทะเบียน อย.ในขนาด 50 ยูนิต จึงกลัวจะเป็นโบท็อกปลอม นำเข้าจาก จีน เวียดนาม ซึ่งมีขายในเวปเกลื่อน ซึ่งเพื่อนตนเคยซื้อไปฉีดที่คลินิกเล็กๆแล้ว เกิดอาการ ปากเบี้ยว เลย มีความกังวลใจเลยมาแจ้งความและยื่นต่อ สสจ.เชียงใหม่ เพื่อให้ตรวจสอบ เรื่อง เลขทะเบียนเพราะกลัวส่งผลต่อรูปหน้า จึงแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.แม่ปิง ไว้ด้วย