ปัจจุบันพฤติกรรมการเสพข้อมูลของคนรุ่นใหม่เข้าสู่ยุค แชะ แชท แชร์ ผ่านสังคมออนไลน์ นาทีนี้ใครที่ไม่มีเฟสบุ๊ค อินสตราแกรม อาจถูกเพื่อนๆมองด้วยสายตาแปลกๆเลยทีเดียว และด้วยเหตุที่ คนส่วนใหญ่นิยมติดตามข้อมูลข่าวสารผ่านโลกออนไลน์จนกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของชีวิต
ความเร็วและแรงเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างรวดเร็วเพียงปลายนิ้วสัมผัสของ “โลกออนไลน์” จึงถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญ ทั้งโปรโมท ชวนเชิญและซื้อ-ขายต่างๆ อย่างมากมาย
ไม่เว้นแม้แต่ “วงการศัลยกรรมความงาม” ที่เรียกได้ว่า ยึดพื้นที่สื่อออนไลน์ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์กันอย่างคึกโครม มีทั้งภาพและวิดิโอของหนุ่ม-สาวที่ผ่านการพลิกชีวิตด้วยมีดหมอมาเป็นไอดอลกระตุ้นความอยากสวย อยากหล่อด้วยศัลยกรรม รวมไปถึงคำโฆษณา ประชาสัมพันธ์ต่างๆ มากมาย อาทิ
ศัลยกรรมพลิกชีวิต เนรมิตมนุษย์ป้าเกาหลีเป็นสาวสวย
ท้าสวย ให้ดั้งโด่ง ศัลยกรรมจมูก ผ่อน 0% สูงสุดนาน 10 เดือน
ศัลยกรรม ปากกระจับ รูปทรงสวย เสริมโหงวเฮ้ง
และในความเร็วและแรงของโลกสังคมออนไลน์นั้น สิ่งที่พบคือการนำเสนอส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การ โน้มน้าว ชักจูง และเชิญชวน มากกว่าการให้ข้อมูลข่าวสาร และข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความเสียหายตามมาอย่างมากมาย
ตั้งแต่เสียเงิน เสียโฉม ไปจนกระทั่งเสียชีวิต แล้วจะทำอย่างไรในเมื่อปัจจุบันสื่อออนไลน์ได้กลายเป็นสื่อที่ทรงอิทธิอย่างยิ่งกับคนยุคนี้ ไปแล้ว
นพ.ชลธิศ สินรัชตานันท์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากการรวบรวมข้อมูลการโฆษณาประชาสัมพันธ์การศัลยกรรมความงามที่นำเสนอผ่านสังคมออนไลน์ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่แฝงไปด้วยการโฆษณา เพื่อโน้มน้าว ชักจูง เชิญชวน
โดยการนำภาพ Before และ After ของบุคคลต่างๆ มานำเสนอ ซึ่งผู้บริโภคไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่าภาพที่นำเสนอเป็นผลงานของแพทย์ หรือสถานพยาบาลนั้นๆ หรือไม่ หรือบางครั้งก็อาจใช้เทคนิคการแต่งภาพ มาช่วยจนทำให้บุคคลในภาพมีความสวย ความหล่ออย่างสมบูรณ์ จนทำให้ผู้บริโภคเห็นแล้วหลงเชื่อและอาจตกเป็นเหยื่อได้
นอกจากนี้ยังพบว่ากว่าครึ่งของผู้ที่บริโภคข้อมูลข่าวสารจากสื่อออนไลน์คือกลุ่มวัยรุ่น หรือเยาวชน ที่อาจจะยังมีพฤติกรรมการบริโภคข่าวสารอย่างรวดเร็ว โดยปราศจากการไตร่ตรองให้รอบครอบ ดังจะเห็นได้ว่า กรณีความเสียต่างๆ มักเกิดขึ้นกกับกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชน เป็นส่วนใหญ่
ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทั้งจากกรณีการทำศัลยกรรม และเรื่องต่างๆ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย แนะว่า ควรใช้ “สติ” ก่อนตัดสินใจและไม่หลงเชื่อทันทีกับข้อมูลที่ได้รับจากสื่อออนไลน์ พร้อมกันนี้ยังมีเทคนิคและวิธีรู้เท่าทันการตลาดศัลยกรรมในสังคมออนไลน์ ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรม ด้วยวิธีง่ายๆ มาฝากดังนี้
ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ
ศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนทำ เพื่อให้ได้รับบริการที่ปลอดภัยและดีที่สุด ด้วยการหาข้อมูลให้รอบด้าน ทั้งจากคนรู้จักที่เคยทำศัลยกรรม ติดตามผลที่เขาทำสักระยะหนึ่งก่อนตัดสินใจ หรือสืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆที่เชื่อถือได้ เช่น สำนักงานเลขาธิการแพทยสภา หรือตรวจสอบรายชื่อแพทย์ได้ทางเว็บไซต์ของแพทยสภา www.tmc.or.th/service_check.php โดยจะมีสถานะความเป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางของแพทยสภาระบุไว้อย่างชัดเจน
หลักการพิจารณาสถานพยาบาลและแพทย์เพื่อความปลอดภัยในการทำศัลยกรรม คือ มาตรฐานและคุณภาพ สถานพยาบาลต้องถูกกฎหมายมีใบรับรอง แพทย์ต้องเป็นแพทย์แผนปัจจุบันไม่ใช่หมอเถื่อนหรือหมอกระเป๋าหิ้ว เมื่อได้มาตรฐานแล้วสิ่งที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม คือ คุณภาพ โดยดูจากผลงานและประสบการณ์ของแพทย์ที่ผ่านมา
เลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง
แพทย์แต่ละคน จะมีความรู้ความชำนาญเฉพาะด้าน อย่างมากไม่เกิน 2-3 ด้าน ดังนั้นการเลือกแพทย์จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในการตัดสินใจทำศัลยกรรม เช่น แพทย์ท่านหนึ่ง ชำนาญการทำศัลยกรรรมตากับจมูก ดังนั้นเรื่องการทำศัลยกรรมหน้าอกอาจจะไม่ชำนาญ ผู้ที่อยากทำศัลยกรรมหน้าอกจึงต้องคิดทบทวนก่อนตัดสินใจเลือกแพทย์ว่าจะทำกับใคร ซึ่งก็ควรจะเลือกผู้ชำนาญเฉพาะด้านดีกว่า
อย่าหลงเชื่อคำโฆษณา
ทำตาสองชั้นแบบเกาหลี เสริมจมูกแบบไม่ผ่าตัดสไตล์เกาหลี ฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆน้อยๆของคำโฆษณาชวนเชื่อ ดังนั้นผู้บริโภคข่าวสารต้องตั้ง “สติ” ให้ดีก่อนตัดสินใจ สำหรับผู้สนใจทำศัลยกรรมควรมีอายุ 18 ปีขึ้นไป เพราะโครงหน้าเริ่มเข้าที่
รวมทั้งมีความพร้อมด้านความคิด สามารถที่จะตัดสินใจทำอะไรได้ด้วยตัวเอง แต่ถ้ายังเรียนอยู่ต้องปรึกษาผู้ปกครองก่อนตัดสินใจ เพราะการทำศัลยกรรมจะสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับร่างกายตนเองหากตัดสินใจผิดพลาดเพียงหลงเชื่อคำโฆษณาอาจเกิดความเสียหายที่ย้อนเวลากลับไปเรียกคืนไม่ได้
อย่าใช้ราคา (ถูก) เป็นตัวตัดสินใจ
ผลงานคุณภาพราคาย่อมเยา มักเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ถูกหยิบมาดึงดูดใจลูกค้า คนที่สนใจทำศัลยกรรมไม่ควรนำเรื่อง ราคา (ถูก) มาเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ เพราะบางครั้งมาตรฐานและคุณภาพการรักษา ก็ไม่ได้มาพร้อมกับราคาถูก สวยประหยัดด้วยเช่นกัน
นายแพทย์ชลธิศ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “สื่อออนไลน์ หรือโซเซียลมีเดีย ไม่ได้มีแต่ผลเสียอย่างเดียว เพราะปัจจุบันได้กลายเป็นสื่อที่หลายธุรกิจนำมาใช้เพื่อเป็นสื่อกลางในการทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้นหากรู้จักก็จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับวงการศัลยกรรมความงามของประเทศไทยเป็นต้น”