นายกฯตอบเรื่องน้องไปป์ ขอร้อง “ถ้าไม่พอใจก็มาลงที่แม่เถอะค่ะ อย่าไปลงกับเด็กเลย”
จากที่เว็บไซต์ “ข่าวสด” เสนอข่าวว่า ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือ น้องไปป์ บุตรชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ซึ่งหลังจากมีการนำเสนอข่าวออกไปทำให้หลายฝ่ายโดยเฉพาะในสังคมออนไลนืประ ณามผู้ที่กระทำการกับเด็กว่าเป็นการไม่เหมาะสมและล่าสุดมีการโพสต์ข้อความใน โซเชียลเน็ตเวิร์กว่าเป็นเรื่องไม่จริงเป็นการเต้าข่าวเนื่องจาก“น้องไป ป์”ได้ย้ายไปเรียนที่ต่างประเทศ2เดือนก่อนหน้านี้แล้วนั้น
แหล่งข่าวใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ด.ช.ศุภเสกข์ ไม่ได้เดินทางไปเรียนยังต่างประเทศตามที่มีการกล่าวอ้าง ยังคงเรียนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ ( Harrow )ดอนเมือง และถ้าเป็นช่วงปิดเทอมก็จะมาเรียนพิเศษที่โรงเรียน ณ ดารุณ ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนภาษาไทยเป็นเวลา 2 เดือน ปัจจุบัน น้องไปป์อายุ 11 ปี
แหล่งข่าวใกล้ชิดนายกรัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่า หลังน้องไปป์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมือง ทีมรักษาความปลอดภัยได้เพิ่มมาตรการการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น แต่ก็ยังคงใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ นอกจากนี้ ในส่วนของผู้ดูแลก็ได้รับการกำชับว่าหากมีการแสดงสัญลักษณ์โดยเป่านกหวีดใส่ หรือพูดกระทบก็ไม่ให้มีการตอบโต้ ซึ่งที่ผ่านมาก็จะใช้การยิ้มให้กลับคืน
“ในส่วนของน้องไปป์นั้น อาจรู้สึกตกใจบ้างแต่เนื่องจากเริ่มโตและเข้าใจการทำหน้าที่ของผู้เป็นแม่ คือนายกรัฐมนตรี จึงไม่หวาดกลัวอะไรหรือตกใจ ซึ่งเมื่อมีคนเข้ามาทักหรือแม้แต่เป่านกหวีดใส่ก็จะหันไปยกมือไหว้กลับทันที อย่างไรก็ตาม ในส่วนของนายกรัฐมนตรีนั้น ก็มีความเป็นห่วงบุตรชายมาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของผู้เป็นแม่ แต่ก็ได้มีการพุดคุยและให้กำลังใจซึ่งกันและกันทุกวัน” แหล่งข่าวใกล้ชิดกล่าว
ต่อมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ น.ส.ยิ่งลักษณ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข่าวน้องไปป์ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ว่า “ต้องขอความกรุณาและเชื่อว่าพี่น้องประชาชนถ้าทุกคนมีลูกก็คงจะนึกถึงหัวอกของความเป็นแม่ว่าถ้าไม่ชอบใจ ขอให้มาลงที่แม่ อย่าไปลงกับเด็กเลย เพราะเด็กไม่รู้อะไร โกรธก็ขอให้มาลงที่แม่เถอะค่ะ อย่าไปลงกับเด็กเลย เพราะเด็กไม่รู้อะไรค่ะ”
เมื่อถามต่อว่าจะต้องย้ายโรงเรียนให้บุตรชายหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า
“ไม่หรอกค่ะ วันนี้ลูกชายก็คงไปเรียนตามปกติ เชื่อว่าเราเป็นคนไทยด้วยกัน สังคมด้วยกันเราอย่าให้การเมืองนี้ การโกรธการเกลียดชังซึ่งกันและกันในการแสดงออกควรจะมีขอบเขตกัน และในส่วนของเด็กเองก็เชื่อว่าเด็กคงไม่รับรู้ และในส่วนของลูกดิฉันก็เชื่อว่าจะมีความเข้มแข็งและเข้าใจกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น”
วันเดียวกัน นายไมเคิล ฟาร์ลีย์ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนฮาร์โรว ออกแถลงการณ์ว่าจากกรณีในช่วง 24 ชั่วโมงมานี้มีข่าวแพร่สะพัดว่า มีความพยายามทางการเมืองที่จะฝ่าฝืนระบบรักษาความปลอดภัยที่โรงเรียน ข่าวลือเหล่านี้ไม่จริง
อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนทบทวนระบบความปลอดภัยของโรงเรียนและกำชับให้ทีมงานที่รับผิดชอบ ด้านความปลอดภัยของโรงเรียนรับประกันความปลอดภัยของเด็ก และกระผมขอให้ผู้ ปกครองทุกท่านสนับสนุนทางโรงเรียนเพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่นำการเมืองเข้ามา ยังโรงเรียนโรงเรียนของเราเป็นสถานที่สำหรับเด็กๆ ที่จะสนุกกับการเรียน
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ ว่า ได้โทรศัพท์สอบถาม น.ส.ขนิษฐา พระวิเชนทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียน ถึงกระแสข่าวน้องไปป์ถูกม็อบนกหวีดคุกคามภายในโรงเรียน
โดยน.ส.ขนิษฐายืนยันว่าน้องไปป์ยังไม่ได้ลาออก จนถึงขณะนี้ยังคงมาเรียนหนังสือตามปกติ ส่วนข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง แต่ทางโรงเรียนควบคุมสถานการณ์ไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงได้ รวมถึงมีมาตรการดูแลเด็กนักเรียนทุกคนอย่างดี แม้ขณะนี้จะมีผู้ปกครองจำนวนมากโทร.สอบถามข่าวดังกล่าวด้วยความเป็นห่วงและสนใจ แต่ขอให้ผู้ปกครองเชื่อมั่นความปลอดภัยภายในโรงเรียน ทั้งนี้ ทางโรงเรียนได้ส่งเอสเอ็มเอสรายงานข่าวที่เกิดขึ้น พร้อมมาตรการดูแลเด็กถึงผู้ปกครองทุกคนเป็นระยะๆ เพื่อให้หายกังวลว่าบุตรหลานจะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ครั้งนี้ด้วย
ที่มา www.khaosod.co.th