ที่มา: Thairath Online

นายกฯติงปม “ลานเบียร์” เป็นเรื่องกฎหมาย ปราม “หมอสมาน” อย่าไปยุ่งให้มากนัก ให้มันจบไป ไม่เข้าใจจะทำทำไม ขอให้ทำเรื่องราวที่ดีต่อประเทศดีกว่า ไล่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาไปบี้โฆษณาขายยาตามทีวี บอกฟังดูแล้วอันตรายขายกันเยอะแยะ ต๊อดเดือดอีก โพสต์เฟซบุ๊กโต้กลับ นพ.สมาน ระบุ “ผมไม่รู้จักคุณ อย่าเบี่ยงประเด็น” 

นายกฯ ทนไม่ไหวออกมาปราม เรื่อง “ลานเบียร์” ทั้งนี้ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 6 พ.ย. ที่ห้องแกรนด์ บอลรูม คริสตัน ดีไซน์ เซ็นเตอร์ เลียบทางด่วนรามอินทรา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.กล่าวถึงปัญหาลานเบียร์ ระหว่างเป็นประธานเปิดและแสดงวิสัยทัศน์ ในงานสัมมนา “นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน 2015” ว่า อนาคตประเทศไทยใน 20 ปีข้างหน้า เน้นการพัฒนาด้านการบริการและสปา สาธารณสุขตอนนี้อย่าไปยุ่งกับเรื่องลานเบียร์ให้มากนักให้มันจบไป ให้เป็นหน้าที่ของกฎหมายเล่นงานกันไป ตอนนี้กลายเป็นเรื่องเป็นราว เช่น สร้างเรื่องตามหาควายเผือก ไม่เข้าใจ จะทำทำไม ขอให้ทำเรื่องราวที่ดีต่อประเทศ เกิดประโยชน์ วันนี้เราต้องรู้ตัวเอง รู้วัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ประเพณีของประเทศให้ดีจะได้รู้ว่าเราควรรักชาติอย่างไร วันนี้นั่งดูทีวีเห็น โฆษณาขายยาเยอะแยะไปหมด บอกว่ากินแล้วสุขภาพจะแข็งแรงกว่าเดิม จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ ฟัง แล้วมันอันตราย ตนไล่บี้ให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ไปดูแล้ว

51

ขณะเดียวกันหลังจากที่นักกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ติงว่าการบังคับใช้กฎหมายเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ กับลานเบียร์ ไม่ควรเหมารวมและต้องแยกความผิดให้ชัดเจนนั้น นพ.สมาน ฟูตระกูล ผอ. สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมาย นักกฎหมายเห็นตรงกับกรมฯ ที่ผ่านมามีการชี้แจงแล้วว่า กฎหมายที่สำนักงานฯบังคับใช้ได้กำหนดไว้ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือ การขายเครื่องดื่มให้กับบุคคลอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี ไม่ขายให้กับผู้ที่คุมสติไม่ได้ การขายให้ถูกสถานที่ วันเวลาในการขาย การขายที่ห้ามการลด แลก แจก แถม ขายพ่วง ส่วนเรื่องใบอนุญาตในการเปิด เป็น เรื่องของกรมสรรพสามิต

นพ.สมานกล่าวอีกว่า ส่วนของการโฆษณาส่งเสริมการขาย ถือเป็นกฎหมายใหม่ การร่างกฎหมาย มีนักนิเทศศาสตร์เข้าร่วมร่าง เพื่อให้มีความเท่าทัน เรื่องกลยุทธ์ทางการตลาด โดยพบว่าเป็นกลยุทธ์ที่ทำให้เกิดการกระตุ้น การดื่มและเกิดผลกระทบตามมา ดังนั้นกฎหมายจึงมีรายละเอียด เพื่อป้องกันการกระตุ้นส่งเสริมการขาย และสื่อสารทางการตลาด จะพบว่าลานเบียร์ มีการส่งเสริมทางการตลาดจำนวนมาก ทั้งป้ายไฟ บอลลูน ใช้ดาราบุคคลที่มีชื่อเสียงมาดึงดูดให้เกิดการบริโภค เชื่อว่าคงไม่มีใครเข้ามาสั่งนม เพื่อดูดารา และยังมีสาวเชียร์เบียร์ที่เข้าข่ายการสื่อสารทางการตลาด เป็นการสื่อสารระดับบุคคลและมีการทำโปรโมชั่นกระตุ้นการบริโภค ส่วนเรื่องของร้านอาหาร ผับ บาร์ เป็น คนละประเภทกับลานเบียร์ แต่หากพบว่า เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการจ่ายเงินเพื่อให้ดารา นักร้อง มาช่วยโปรโมตสินค้า และทำโปรโมชั่น ก็ถือว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายเรื่องการส่งเสริมการตลาดเช่นกัน

สำหรับกรณีนายปกรณ์ ลัม หรือโดม พระเอกคนดัง ที่ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้ามาให้ถ้อยคำนพ.สมานกล่าวว่า มองว่าสื่อพาดหัวรุนแรงมากเกินไป ความจริง การนัดหมายครั้งแรก วันที่ 2 พ.ย. คุณโดมเป็นฝ่ายไม่ว่าง และเลื่อนมาวันที่ 4 พ.ย. คณะกรรมการก็ไม่ว่างเช่นเดียวกัน เพราะการให้ถ้อยคำ ต้องมีคณะกรรมการมาเข้าร่วมรับฟังด้วย ได้ชี้แจงต่อดารา นักแสดงทุกคนที่ได้เชิญมาแล้ว สำหรับวันที่ 11-13 พ.ย. และ 16 พ.ย. จะเป็นคิวการให้ถ้อยคำของกลุ่มดารา 19 คน ที่พบหลักฐานข้อมูลการโพสต์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทคอกเทล ที่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 32 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทั้งหมดได้ยืนยันการเดินทางมาแล้ว ส่วนโดม ดีเจต้นหอมและดารา นักแสดง ที่เหลือ น่าจะได้นัดหมายหลังวันที่ 16 พ.ย.ไปแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่ผู้ประกอบการต้องการให้สำนักงานฯ มีการตีความกฎหมายในส่วนการโฆษณาทางอ้อม นพ.สมานกล่าวว่า วิธีการโฆษณาตาม พ.ร.บ. มีการระบุไว้ในมาตรา 3 อย่างชัดเจน ถึงวิธีการและความหมายของการโฆษณา ซึ่งการแสดงชื่อสินค้าหรือเครื่องหมายที่เป็นการชักจูงให้ดื่มทางตรงหรือทางอ้อมก็หมายถึงการโฆษณาทั้งหมด จึงไม่จำเป็นต้องตีความใหม่ หรือออกกฎหมายลูกแต่อย่างใด ส่วนกรณีการเชิญแอดมินเพจ “อีเจี๊ยบเลียบด่วน” มาให้ถ้อยคำ ได้ติดต่อไปยังแอดมินเพจแล้ว มีการชี้แจงเบื้องต้นว่า ภาพที่ปรากฏในคลิปไม่ใช่ตนเอง แต่มีการรับค่าจ้างในการให้ใช้สัญลักษณ์ของเพจจริง เบื้องต้นเพจดังกล่าวถือเป็นสื่อสาธารณะเป็นช่องทางการสื่อสารเหมือนกับทีวี อินสตาแกรม ที่เป็นสื่อสาธารณะไม่สามารถโฆษณาตามที่กฎหมายกำหนดได้ เพจดังกล่าวเป็นเพจที่มีประชาชนติดตามจำนวนมากและเป็นผู้ที่มีสไตล์การเขียนที่เป็นเอกลักษณ์ จะมีการขอความร่วมมือเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยรณรงค์ แอดมินเพจได้รับปากว่าจะช่วยเหลือทางภาครัฐเป็นอย่างดี ตามกฎหมายแอดมินต้องเป็นผู้ให้ถ้อยคำด้วยตนเอง แต่จะเป็นการให้ถ้อยคำอย่างไรนั้นจะมีการประสานกันอีกครั้ง

วันเดียวกัน ต๊อด-ปิติ ภิรมย์ภักดี ผู้บริหารเบียร์สิงห์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวพร้อมมีภาพคำให้สัมภาษณ์ของ นพ.สมานกับสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ที่กล่าวหาว่าต๊อดโพสต์ข้อความต่อว่า นพ.สมานอย่างรุนแรงประกอบโดยข้อความในเฟซบุ๊กที่ต๊อดได้โพสต์โต้ตอบ นพ.สมานระบุว่า “สมองพังไปหมดแล้ว ผมไม่เคยรู้จักคุณ อย่าเบี่ยงประเด็น กฎหมายกำลังเอาผิดคุณอยู่รู้ยัง สสส.กับการคอร์รัปชัน ตอบมารอฟังครับ”

เรื่องน่าสนใจ