เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 14 พฤศจิกายน ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) น.ส.ณัฐณิชา สกุลจารุพงศ์ พริตตี้สาว เจ้าของฉายานิกกี้ เงินล้าน อายุ 33 ปี ชาว จ.มุกดาหาร เข้าพบ พ.ต.อ.นิติพัฒน์ วุฒิบุณยสิทธิ์ ผกก.สอบสวน บก.ปอท. และ ร.ต.อ.ยศสรัล ใจเสาร์ดี รอง สว.สอบสวน กก.1 บก.ปอท.
แจ้งว่าเฟสบุ๊คชื่อ Nattanicha Sakunjarupong ที่ใช้มานานหลายปีแล้ว ถูกระงับการใช้ โดยเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม เวลา 18.00 น.ขณะเข้าไปถ่ายทอดสด Live ผ่านเฟสบุ๊คตามปกติที่เคยทำเป็นประจำ เวลาไปออกงานอีเวนต์ หรืองานโชว์แสดงสินค้า แต่กลับเข้าไปในหน้าเฟสบุ๊คของตัวเองไม่ได้
เมื่อสอบถามไปทางผู้ดูแลเฟสบุ๊คได้รับคำตอบว่าเราเป็นตัวปลอม ใช้ชื่อและรูปภาพของผู้อื่น ทำให้รู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะปกติตนจะเล่นถ่ายทอดสดอยู่ประจำแทบทุกวัน จู่ๆ ก็เข้าไม่ได้เสียอย่างนั้น แถมมาบอกว่าเราเป็นตัวปลอมทั้งๆ ที่เล่นเฟสบุ๊คมานานจะสิบปี
อาชีพของตนต้องพูดคุยกับบรรดาแฟนคลับที่ติดตามผลงานนับแสนคน ก่อนจะถูกปิด มีคนมาคอมเมนต์แปลกๆ ทำให้ตนเสียหายมาก ที่ประหลาดใจ ทำไมเฟสบุ๊คปลอม 2-3 อัน ที่ใช้ชื่อและรูปของตนที่เปิดมาแข่ง ทั้งตนและกลุ่มแฟนคลับ ช่วยกันรายงานไปทางผู้ดูแล กลับไม่โดนปิดสักรายเลย
นิกกี้ เงินล้าน กล่าวต่อว่า เมื่อพยายามกู้เฟสบุ๊คคืนก็ทำไม่ได้ มีจดหมายมาแจ้งทุกครั้งว่าเราเป็นตัวปลอม จึงได้เปิดบัญชีใหม่อีก 2 ครั้ง โดยใช้ชื่อ-นามสกุลจริง เบอร์โทร ที่อยู่ เป็นไปตามข้อกำหนดของทางเฟสบุ๊คทั้งสิ้น ปรากฏว่าครั้งแรกเปิดเล่นได้ 23 ชั่วโมง แฟนคลับแอดเข้ามาเป็นเพื่อนได้หลายหมื่น ก็มีจดหมายจากผู้ดูแลแจ้งมาว่าตนเป็นตัวปลอมอีกแล้ว พร้อมกับระงับบัญชีใหม่เข้าไม่ได้อีกเป็นรอบสอง
“สงสัยเหมือนกันว่าเราให้ข้อมูลส่วนตัวจริงๆ ของเราไป แต่ทำไมถึงยังโดนระงับได้อีก ตัดสินใจสมัครใหม่เป็นครั้งที่สาม คราวนี้เพียงแค่ชั่วโมงเดียวก็โดนระงับ แจ้งเหตุมาทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์เวลาเราพยายามจะเปิดใช้งานว่า เป็นตัวปลอม เอาชื่อและรูปของบุคคลอื่นมาใช้อีก” นิกกี้ เงินล้าน กล่าว
ทั้งนี้ ตนจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดจะพยายามกู้บัญชีกลับมาให้ได้ เพราะเล่นมานาน เป็นของเราแท้ๆ กลับมาบอกว่าเราเป็นตัวปลอม ติดต่อผู้ดูแลเฟสบุ๊คในประเทศไทยที่มีเจ้าหน้าที่ทำงานเพียง 3 คนไปแล้ว และขณะนี้ได้ประสานกับทางเฟสบุ๊คที่สิงคโปร์ที่ดูแลอยู่ จะทำให้เป็นกรณีศึกษาให้ได้ เพราะทราบมาว่ามีผู้ใช้เฟสบุ๊คในประเทศไทยจำนวนมากโดนแฮกแบบเดียวกัน ส่วนข้อมูลบุคคลที่สงสัยว่ามีสวนเกี่ยวข้องได้มอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยสืบสวนตรวจสอบแล้ว
ด้าน พ.ต.อ.นิติพัฒน์ ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปอท. ฝ่ายสืบสวนที่ชำนาญงานด้านไอที 3 นาย มาช่วยกันวิเคราะห์ เนื่องจากเป็นเคสที่ไม่เคยเจอ ส่วนมากที่มาแจ้งความเกี่ยวกับเฟสบุ๊ค จะเป็นการโดนแฮกบัญชี แล้วเอาไปหลอกเพื่อนให้โอนเงิน
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนระบุว่าอาจโดนแฮกอีเมล์ แนะนำให้เปลี่ยนไปใช้ของ จีเมล์ จะมีระบบล็อกเพื่อความปลอดภัยถึงสามชั้น และกรณีของนิกกี้ อาจเป็นไปได้ว่าจะโดนโคลนนิ่งมือถือ เพราะเมื่อทำอะไร อีกฝั่งที่รออยู่จะรู้ทันทีว่ากำลังดำเนินการอะไรอยู่ แม้แต่ในแอพพลิเคชั่นไลน์จะคอยมาดูหลังเจ้าของเปิดอ่านไปแล้ว เพื่อไม่ให้เจ้าของรู้ตัวว่ามีคนแอบเข้ามาอ่าน
พ.ต.อ.นิติพัฒน์กล่าวต่อว่า ขอแนะนำว่าให้แจ้งความลงประจำวันไว้กรณีเฟสบุ๊คโดนแฮก จากนั้นค่อยมาว่ากันต่อเรื่องเฟสบุ๊คปลอมที่มาแอบอ้างเป็นเราดำเนินคดีนำเข้าคอมพิวเตอร์ปลอมหรืออันเป็นเท็จก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนได้
ทั้งเห็นว่าการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหายจึงมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป โดยผู้แจ้งจะได้ไปรวบรวมพยานเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม จะได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการอีกครั้ง