นิชคุณ ย่องเงียบดูแลเด็กพิการ หลังจากเกิดอุบัติเหตุ ได้ใช้เวลาไปบำเพ็ญประโยชน์ในองค์กรพุทธศาสนาแห่งหนึ่งที่เกาหลีใต้ โดยทำงานช่วยเหลือดูแลเด็กผู้พิการ โดยเป็นการตัดสินใจทำงานเพื่อสังคมแบบเงียบๆ ไม่อยากให้เป็นข่าวแต่อย่างใด
โดย นิชคุณ ได้มาใช้เวลาดูแลเด็กๆ ที่ศูนย์แห่งนี้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยไม่ได้มีการประกาศข่าวใดๆ ออกไป เพราะไม่อยากให้ใครมามองว่าเขาใช้เรื่องนี้เพื่อล้างภาพความผิดพลาดที่เกิด ขึ้น ซึ่งทางต้นสังกัด JYP Entertainment ก็ช่วยเหลือปิดความลับเรื่องนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
ในเวลาเดียวกันองค์กรที่ นิชคุณ ตัดสินใจเข้าร่วมบำเพ็ญประโยชน์ก็ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดการใช้เวลาทำ งานอยู่ที่นี่ของเขาด้วยเช่นเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่ขององค์กรพุทธแห่งนี้ให้ข้อมูลเพียงสั้นๆ ว่า “เขาเป็นเพียงอีกคนที่เป็นอาสาสมัคร ซึ่งเราคงจะไม่ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับงานของเขาที่นี่” เช่นเดียวกันเจ้าหน้าที่ และทีมงานคนอื่นๆ ก็ปฏิเสธจะพูดถึงเรื่องนี้ แม้แต่ชาวบ้านที่พักอยู่ในละแวกนี้ ก็ไม่ทราบถึงการมาเยือนของ นิชคุณ เลย
อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวเริ่มเป็นที่พูดถึง หลังมีกระแสในอินเทอร์เน็ต จากอาสาสมัครที่มาช่วยงานที่นี่รายหนึ่ง ที่เขียนผ่านชุมชนออนไลน์แห่งหนึ่งว่า เขาเห็น นิชคุณ ระหว่างมาช่วยงานในวันนี้ “ฉันเห็นนิชคุณด้วย วันนี้เป็นวันครบรอบ 4 ปีของ 2PM ในวันที่มีความหมาย เขาได้ทำอะไรที่มีความหมายมากจริงๆ … ที่นี่เป็นศูนย์สำหรับเด็กพิการ นิชคุณ จริงใจแล้วก็ขยันมาก เขาจำชื่อเด็กได้ทุกคน ทั้งป้อนข้าวป้อนน้ำ แล้วยังอาบน้ำให้กับเด็กๆ ด้วย”
ข่าวการบำเพ็ญประโยชน์ ถือเป็นความเคลื่อนไหวล่าสุดของนิชคุณ ที่ผลกระทบในคดีที่มีการตรวจพบระดับแอลกอฮอล์ในกระแสเลือด 0.056% สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดเอาไว้ 0.050% ทำให้เขาที่ปกติมีภาพพจน์เป็นคนหนุ่มผู้สมบูรณ์แบบในสายตาชาวเกาหลี ต้องเจอปัญหาใหญ่ ถึงขั้นที่ทำให้ต้องพักงานในวงการบันเทิงไปแบบไม่มีกำหนดเพื่อใช้เวลา “ทบทวน” ถึงการกระทำของตนเอง
โดยเป็นเวลามากกว่า 1 เดือนที่เขาไม่ได้ปรากฏตัวในสื่อใดๆ นอกจากการทวีตข้อความครั้งเดียวเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ในวาระการครบรอบ 4 ปี ของ 2PM ที่โลดแล่นในวงการบันเทิง เป็นข้อความเพียงแต่สั้นๆ ว่า “Thank you, Always 4ever”
ซึ่งสื่อในเกาหลีใต้ยังแสดงความชื่นชม ว่า การทำงานอาสาสมัครครั้งนี้ แสดงถึงความตั้งใจในการแก้ไขตัวเองด้วยความจริงใจ เป็นขั้นตอนการสำนึกผิดก่อนจะกลับมาสู่สายตาของทุกคนอีกครั้ง และเป็นการตัดสินใจของเจ้าตัวเอง ไม่ได้เป็นคำสั่งของต้นสังกัด หรือเป็นส่วนหนึ่งของแผนการประชาสัมพันธ์ใดๆ
ขอบคุณที่มาจาก http://goo.gl/2okof
เรียบเรียงโดย freshnight