เรียบเรียงข่าวโดย โดดเด่นดอทคอม
ภาพประกอบข่าวจาก ข่าวสด
จากกรณีในสังคมออนไลน์ได้โพสต์แจ้งข่าวว่า น.ส.ปฐมนต์ สารสมบัติ หรือ น้องปิ่น อายุ 25 ปี ได้หายออกจากบ้านพัก จ.นนทบุรี ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 16 ก.พ. ล่าสุด ผู้สื่อข่าว เว็บไซต์ โดดเด่นดอทคอม ระบุว่า
ทาง ข่าวสด ได้ให้รายละเอียดว่า น้องปิ่นสวมเสื้อยืดสีขาวคอวีแถบเขียวมิ้นท์ ลายจักรยาน สกรีนข้อความว่าเชียงคาน และสวมกางเกงขาสั้นสีชมพู พกโทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นกาแลคซี่ เอส 4 สีดำ และ ไอแพด 2 สีขาว โดยไม่ทราบว่าหายไปที่ไหน และไม่สามารถติดต่อได้
เบื้องต้นมีการลงบันทึกประจำวันไว้เมื่อวันที่ 16 ก.พ. เวลา 23.55 น. ที่สภ.เมืองนนทบุรี สาขารัตนธิเบศร์ โดยน.ส.ปฐมนต์ ได้ใช้บริการแท็กซี่สีน้ำเงิน ปรากฎในภาพกล้องวงจรปิด
นายภาณุฤทธิ์ สารสมบัติ พี่ชายของ น.ส.ปฐมนต์ ให้สัมภาษณ์ว่า น้องสาวกำลังเรียนปริญญาโทชั้นปีที่ 1 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไม่ได้ทำงานอย่างอื่น
โดยล่าสุดได้ติดต่อกับน้องสาว คือวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านั้นทางครอบครัวพยายามติดต่ออยู่ตลอดวันแต่น้องสาวไม่รับสาย
กระทั่งน้องสาวติดต่อกลับมาเองประมาณช่วงค่ำวันที่ 13 ก.พ. โดยบอกว่าอยู่กับเพื่อน ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่ตนโทรหา ซึ่งรู้สึกแปลกใจที่ปกติน้องสาวเป็นผู้หญิงร่าเริง
แต่วันนั้นเป็นการคุยแบบถามคำตอบคำ มีน้ำเสียงไม่ค่อยสบายใจ พอตนถามว่ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือไม่ น้องสาวบอกสั้นๆ ว่า “อืม” และกดวางสายไป ซึ่งตอนนั้นแปลกใจเฉยๆ ไม่คิดว่าจะมาหายตัวไป
นายภาณุฤทธิ์ กล่าวต่อว่า เมื่อน้องสาวหายตัวไป จึงได้คุยกับนายภาณุเมศวร์ บุนนาค แฟนหนุ่มของน้องสาว จึงทราบว่าช่วงวันที่ 13 ก.พ. น้องสาวไม่ได้ไปนอนกับเพื่อนตามที่แจ้งกับตนไว้
แต่อยู่ที่บ้านแฟนตลอดตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. ซึ่งน้องสาวเพิ่งกลับมาจากบ้านที่จ.หนองคาย ทั้งนี้ทราบจากนายภาณุเมศวร์อีกว่าวันที่ 14-15 ก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งคู่ก็ยังไปเที่ยวพักผ่อนกินข้าวกันปกติ
ซึ่งนายภาณุเมศวร์บอกตนว่าวันที่ 16 ก.พ. น้องสาวจะมาหาตนและมาค้างแรมด้วยซึ่งนัดตนไว้แล้วเรียบร้อย
แต่ความจริงตนไม่ได้คุยกับน้องสาวอีกเลยตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ. ไม่ทราบมาก่อนว่าน้องสาวจะมาหา แม้จะพยายามโทรหาหลายครั้งแต่น้องสาวก็ไม่รับสาย
และครั้งสุดท้ายก่อนที่โทรศัพท์น้องสาวตนจะสัญณาณขาดไปคือช่วงเช้าวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา
พี่ชายน้องปิ่น กล่าวต่อว่า ตอนนี้ครอบครัวไม่ได้ตั้งข้อสงสัยใคร เพราะเท่าที่ทราบครอบครัวของนายภาณุเมศวร์ก็ดูแลน้องสาวตนดี ส่วนภาพกล้องวงจรปิดที่ปรากฏรูปแท็กซี่สีฟ้าต้องสงสัยนั้น เป็นกล้องวงจรปิดที่หน้าบ้านนายภาณุเมศวร์
ซึ่งไม่อาจบอกได้ว่าน้องสาวตนขึ้นรถแท็กซี่คันดังกล่าวไป เมื่อดูภาพย้อนหลังเห็นแต่หน้าผากน้องสาวผ่านกล้องไปเท่านั้น เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่แท็กซี่วิ่งผ่านมาและวนรถวิ่งกลับออกไป
อย่างไรก็ตามทางครอบครัวรู้สึกเป็นห่วงที่น้องหายตัวไป อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยตามหาตัวให้ได้ก่อน ซึ่งตนได้แจ้งกับศูนย์ข้อมูลคนหายมูลนิธิกระจกเงา วิทยุจส.100 สวพ.91 และสภ.เมืองนนทบุรีไว้แล้ว
